กบนาหรือบลูฟร๊อก หรือลูกผสมครับ

มีคนส่งรูปมาให้ดู เห็นว่าเจอหลายตัวที่สวนหลวง ร.9

ไม่ค่อยมั่นใจพวกลูกผสม

Comments

ความเห็นที่ 1

bullfrog พันธุ์แท้ๆเลยล่ะ

ความเห็นที่ 2

เอเลี่ยนกลางกรุุง ชะรอยปล่อยไว้ สัตว์พื้นเมืองบ้านเราคงมีชะตากรรมแบบเดียวกับอเมริกา นึกถึงกบเสือดาวอเมริกา นกหลายชนิด แม้แต่งูยังเสร็จเจ้านี่  เคยเห็นตอนที่ผ่าท้องเจ้าตัวนี้ในเนชั่นแนล จีโอ ครับ

ความเห็นที่ 2.1

เอ๋? มันเป็นกบของอเมริกาอยู่แล้วไม่ใช่หรือครับ?
หรือว่ามันไปอยู่ผิดมลรัฐ...

ความเห็นที่ 2.1.1

ใช่ครับมันเป็นกบสัญชาติอเมริกาเชื้อชาติแอฟริกันแต่ไปอยู่ผิดที่ผิดทาง มันกระจายพันธุ์ไปในพื้นที่ ที่มีสัตว์เฉพาะถิ่นอยู่ อย่างกบเสือดาวอเมริกาโดนเจ้านี่สอยซะแถบสูญพันธุ์ จนต้องมีการควบคุมประชากรอย่างเข้มงวด แต่ก็มีเมืองที่อนุรักษ์เจ้าตัวนี้เหมือนกัน ถ้าเคยเห็นเทศกาลแข่งกบกระโดไกลน่าจะรู้จักเมืองนี้ " Frog Town "ครับ

ความเห็นที่ 3

เวรกรรม  --*

ความเห็นที่ 4

ที่อเมริกาจัดหน่วยกำจัดบลูฟ๊อก โดยตรงทั้งฉมวก ทั้งตาข่าย ยังเอาไม่อยู่ ตอนหลังใช้ปีนลมติดกล้อง และก็กำจัดไข่ของบูลฟ๊อก ยังเอาไม่ค่อยอยู่ แล้วบ้านเรา.........crying

ความเห็นที่ 5

อิ๊บอ๊าย แอ้วววว

ความเห็นที่ 6

เดี๋ยวผมจะลองเมลคุยกับพี่ศุภฤกษ์ ว่าที่อเมริกา กำจัดเจ้าตัวนี้ได้หรือยัง และด้วยวิธีไหนครับ 

ความเห็นที่ 7

ใช่แน่ บูลฟร็อก หัวเขียวปรื๋อ  ตัวใหญ่แต่เนื้อน้อยกว่ากบนาเป็นเครื่องในซะเยอะ จับทอดพริกไทกระเทียมซะ

ความเห็นที่ 7.1

บูลฟ๊อกเน้นนื้อที่น่อง ส่วนอื่นเป็นส่วน(ทาน)แทะเล่นๆครับ บ้านเราผัดกระเพรา,ผัดพริก,ทอดกระเทียมใช้ทั้วตัว หนังยังไม่เหลือ แต่จะทันกับการขยายพันธู์ของมันหรือเปล่าครับ

ความเห็นที่ 8

ขยายพันธุ์ในธรรมชาติบ้านเราได้หรือยัง?  ไม่อยากมีโอกาสติดตามเลยเหอะ...

ความเห็นที่ 8.1

ผมเองยังไม่เคยเจอในสวนหลวงเลยครับ แต่คราวนี้ไป คงต้องมอง ๆ ซ่ะแล้ว

ความเห็นที่ 9

คนเอามาเลี้ยง แล้วเอาไปปล่อยสินะครับเนี้ย

ความเห็นที่ 10

ถ้าบลูฟร๊อกจริง จะแจ้งให้เจ้าหน้าที่แถว ๆ นั้น หากเจอ ให้จับไปกิน 

ความเห็นที่ 11

มีรุปผู้ควมคุมประชากรมาโชว์ครับ
227458_151307144936488_100001716091099_331230_2302203_n.jpg

ความเห็นที่ 11.1

ขาพอๆกับกับผู้ล่าเลย

ไม่ทราบว่าผู้ล่าตัวเล็ก หรือเหยื่อตัวใหญ่

ความเห็นที่ 12

กบพันธุ์ ที่ว่านี้ เป็นชนิดที่นิยมเพาะเลี้ยง และ ขายอยู่ตามท้องตลาด หรือเปล่าครับ

ความเห็นที่ 13

กบพันธุ์ ที่ว่านี้ เป็นชนิดที่นิยมเพาะเลี้ยง และ ขายอยู่ตามท้องตลาด หรือเปล่าครับ

ความเห็นที่ 14

พอดีได้รับเมลตอบกลับจากพี่แขกครับ เลยเอาบางท่อนมาแปะให้อ่านกันครับ

"กบนี้ตัวใหญ่มากสามารถกินอาหารได้วันละครึ่งกิโล และกินสัตว์เล็กทุกชนิดเป็นอาหาร พวกที่นำเข้าเห็นแก่ตัวมากเพราะมันสามารถออกลูกได้เป็นหมื่นๆตัวภายในหนึ่งปี ทางอเมริกาไม่นิยมกินเสียด้วยสิ นอกจากพวกคนลาวหรือเขมรจะนำไปกินหรือซื้อไปให้งูเหลือมกิน ทางอเมริกาไม่ค่อยมีปัญหาเพราะอากาศส่วนมากหนาวกบจะจำศีล แต่ทางเมืองไทยอากาศร้อนเหมาะแก่การแพร่พันธุ์ ตอนเมื่อสิบกว่าปีที่แล้วได้มีการนำเข้ามาในเมืองไทยซึ่งตอนนั้นมีกบอยู่อยู่หลายพันธุ์ซึ่งตัวใหญ่ๆทั้งนั้น ทั้งที่มาจากอเมริการใต้และจากอเมริกาโดยตรง ตอนนั้นผมนึกอยู่แล้วว่าจะต้องมีปัญหาเหมือนปลาช่อนอเมซอนซึ่งจะกินทุกอย่างที่ขวางหน้ารวมทั้งเรดเทลแคทฟิชพวกนี้กินได้ทั้งวัน เมื่อไม่กี่ปีผมเคยเห็นลงข่าวว่ามีฟาร์มกบชนิดนี้อยู่ในเมืองไทยด้วยนะครับ และมันสามารถผสมกับกบพื้นบ้านเราเพื่อปรับสภาพความอยู่รอด ต่อไปอาจจะไม่มีกบไทยแท้ๆก็ได้ น่าเห็นใจพวกหลาน เหลนในอนาคต ว่าจะเห็นแต่รูปกบไทยในหนังสือเท่านั้น เมืองไทยน้ำท่วมบ่อยคิดว่าป่านนี้คงกระจายไปทั่วประเทศแล้วครับ"

ความเห็นที่ 15

เอาภาพจาก baankwan.net มาใหดูครับ
กำลังเล็งเหยื่อ อีกภาพจากกูเกิ้ล ไม่มีชื่อเว็บครับ

ความเห็นที่ 16

แล้วจริงๆมันเป็น American bullfrog หรือ African bullfrog ล่ะครับ? เจ้าตัวนี้?
กบที่มีชื่อเรียกว่า บุลฟรอก มีสองประเภทนะครับ

ความเห็นที่ 16.1

ตัวที่จั่วหัวกระทู้นี่เป็นอเมริกันบลูฟรอกครับ มีภาพมาให้เปรียบเทียบ ภาพจาก siamreptile.com ครับ
โดยลักษณะที่แตกต่าง คือ ขนาด และลักษณะของร่างกายครับ อเมริกัน จะเพียวกว่า ส่วนคอและหัวจะยาวกว่า แล้วก็สีของผิวหนัง(แต่อันนี้ไม่ค่อยแนะนำครับ)ของแอฟริกันจะมีโทนสีน้ำตาลออกเหลือง ของอเมริกันจะออกโทนสีเขียวแล้วไล่โทนสีไปเหลืองที่ลำตัวช่วงล่างครับ แอฟริกันตัวจะใหญ่กว่าอเมริกันมากครับ อเมริกันจะใหญ่กว่ากบนาบ้านเราหน่อยนึงครับ

แอฟริกันบลูฟรอกครับ ตัวนี้อเมริกันบลูฟรอกครับ

ความเห็นที่ 16.1.1

หากไม่เจอหูให้มาก ๆ ผมก็งงอ่ะ ดูไม่ออก

ความเห็นที่ 17

ดูลูกผสมกันบ้างครับ มันก็คล้ายกันนะ
406140.jpg

ความเห็นที่ 17.1

นั่นซิครับเริ่มดูไม่ออกขึ้นเรื่อยๆ มันคล้ายกันมากๆ ผมนั่งดูข้อมูลตั้งนาน พยายามจับจุดที่สามารถชี้บ่งได้ยังไม่เจอเลย เท่าที่รับรู้ได้คือถ้าเป็นพันธุ์ผสมดูยากโคตรๆ แต่ถ้าเป็นพันธุ์แท้ เขาให้ดูตั้งแต่อ๊อดครับ อ๊อดตัวใหญ่กินอ๊อดเล็กเดาได้ว่า น่าจะเป็นแอฟ แต่ก็อีกแหละครับ กบกินกบ บ้านเราก็มีให้เห็น ข้อมูลบางเว็บกบนาไข่ 500-600 ฟอง บลู 10,000-20,000 ฟอง แล้วตกลงจะจำแนกที่ตรงไหนผมก็ยังงง แต่ที่สังเกตูเห็นนี่คือเป็นอเมริกันบลูฟรอกครับ เพราะขนาดไล่เลี่ยกัน ถ้าเป็นแอฟริกัน บลูฟรอก ตัวขนาดนี้คืออาหารครับ

ความเห็นที่ 17.2

ผมว่าพันธุ์ผสมนี่มีลักษณะส่วนหัวคล้ายกบนามากกว่าบุลฟร็อกนะครับ blush
ว่าแต่มันสืบพันธุ์ได้ไหมครับ? เคยได้ยินมาเหมือนกันว่าเค้าผสมเพื่อให้ได้เนื้อมากแบบบุลฟร็อก และมีคุณภาพเนื้อดีคล้ายกบนาไทย

ความเห็นที่ 17.2.1

ใช่เลยครับ เขากบนามาผสมกับบลูฟร็อก เพื่อให้ได้เนื้อและไข่เยอะ และมีคุณภาพของเนื้อใกล้เคียงกับกบนาครับ แต่ส่วนใหญ่ใช้พันธุ์อเมริกันครับ พันธุ์แอฟริกันเลี้ยงเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยง(สวยงาม)ครับ 

ความเห็นที่ 18

เทียบกับคางคกอ้อยแล้ว ผมว่าบุลฟรอกยังจัดการง่ายกว่า เพราะอย่างน้อยคนและสัตว์หลายชนิดก็บริโภคมันได้

ความเห็นที่ 19

จริง ๆ แล้วถ้าอนุญาตให้ พี่ท่านทางแถบอีสานที่เข้ามาทำงานใน กทม. จับได้ ผมว่าหมดแน่เลย ที่สวนหลวงนั้นน่ะนะ แถวบ้านผมกบธรรมดายังแถมหมด 55

ความเห็นที่ 20

ล่าสุดวันนี้ ไปเจอที่น้ำตกจำลอง สวนหลวง ร.๙  บ่อเดียวเจอไปสี่ตัว  

ตอนนี้มันระบาดหรือยังครับ และเพื่อสัตว์ท้องถิ่นชนิดอื่น ควรแจ้งให้ทางสวนทราบแล้วให้ยามจับกินหรือไม่ครับ

ขอความเห็นครับ




ขอบคุณรูป จากคุณจรัล จาก thaibirder ครับ

frog.jpg

ความเห็นที่ 20.1

โหใส่ต่างหูอันเบ่อเริมมาเลย ควรแจ้งให้ทราบครับ แล้วก็ให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย(ยามนั่นแหละ)ดำเนินการขั้นเฉียบขาด (ผัดกระเพรา อ่อมกบ ทอดกระเทียม) เพื่อไม่ให้ระบาด ตอนนี้การระบาดยังเท่าไหร่ แต่ถ้าปล่อยไว้จนหนักผมว่าจะหาทางรับมือยากนะครับ

ความเห็นที่ 21

http://chm-thai.onep.go.th/webalien/species_mam.html
ตัวที่ 10 ครับ

ความเห็นที่ 22

อยู่ที่จิตสำนึกของแต่ละคนครับว่าจะเลี้ยงแบบไหนถ้าเลี้ยงตามกระแสก็น่ากลัวครับเพราะเห็นกันเกลื่อนครับไม่เฉพาะบูลฟร็อกอีกัวน่าเอยนกสวยงามบางชนิดเอยที่ตกเป็นจำเลยเพราะคนมักง่ายบางคนก็อย่างว่าละครับคนไทยใจบุญครับเมืองนอกบางประเทศทำลายเลยครับไม่เอาไว้ครับหากเบื่อที่จะเลี้ยงก็จะมีหน่วยงานมารับไปครับเอเลี่ยนก็จริงครับแต่สังคมสมัยนี้โลกาภิวัตน์ยุคไร้พรมแดนลองเข้าไปดูที่โครงการในพระราชดำริของในหลวงที่ห้วยห้องไคร้หรือห้วยทรายดูครับจะมีรายละเอียดของบูลฟร็อกครับโครงการดีๆหลายอย่างที่คนไทยไม่ค่อยจะเหลียวแลมีแต่โทษชะตากรรมของตนที่เกิดมา(จน)แม่ให้เราเกิดมาในโลกนี้ก็บุญถมเถไปแล้วอยู่ที่สองมือสองขาและจิตสำนึกของตัวเราที่จะกำหนดชะตาของตัวเราเองว่าจะเป็นแบบไหนมนุษย์ต่างกับสัตว์ที่กำหนดชะตาตัวเองได้ก็เหมือนจำเลยอย่างบูลฟร็อกครับอยู่ที่จิตสำนึกของมนุษย์เอง(12 สิงหาคม)ขอให้แม่ทุกคนมีความสุขครับ