จากประสบการณ์ที่เลี้ยงอยู่นะพี่ จะมีมอสหรือเฟิร์นบางชนิดครับที่สามารถเลี้ยงในสวนขวดแบบปิดได้ วิธีการคือหาขวดใสที่มีฝาปิด (ฝาปิดใสโปร่งแสงยิ่งดี) ขวดแก้วดีกว่าขวดพลาสติกในเรื่องของอุณหภูมิและการส่องผ่านของแสง เมื่อได้ขวดที่เหมาะสมแล้ว ปูพื้นก้นขวดด้วยหินหรือทรายสูงประมาณ 1 นิ้ว ส่วนนี้เป็นส่วนกักเก็บน้ำ ชั้นด้านบนของทรายหรือหินปูทับด้วยสแฟกนัมมอสหรือขุยมะพร้าวหยาบ ชั้นนี้ไว้เก็บความชื้นและกันดินด้านบนลงไปปนในชั้นเก็บน้ำด้านล่าง ชั้นบนสุดใส่ดินหรือพีทมอส แล้วนำต้นไม้ลงปลูก พรมน้ำพอหมาดๆและระดับน้ำบริเวณชั้นหินที่กักเก็บน้ำด้านล่างสูงเท่ากับความหนาของชั้นหิน ปิดขวด ตั้งในที่แสงส่องถึง เช่นข้างหน้าต่าง แต่อย่าให้ถูกแดดโดยตรงครับ หากสองวันแรกแฉะเกินไปให้เปิดฝาขวดระบายไอน้ำออก ส่วนเรื่องราที่จะตามมาสามารถแก้ปัญหาได้โดยการใช้ปุ๋ยมูลไส้เดือน ร่วมกับน้ำหมักมูลไส้เดือนฉีดพ่น ในปุ๋ยไส้เดือนและน้ำหมักนอกจากจะเป็นปุ๋ยอย่างดีแล้ว ยังประกอบด้วยจุลินทรีย์จำนวนมากที่จะช่วยปรับสมดุลในสวนขวดครับ นอกจากนี้เมือกของไส้เดือนที่ปนอยู่ในปุ๋ยและน้ำหมักมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อราได้ แต่ถ้าวางในที่แสงส่องถึงปริมาณมากพอจะไม่พบปัญหาเรื่องราเลยครับ แต่ถ้าหากเกิดราขึ้นจำนวนมากซึ่งอาจเกิดจากเชื้อที่มีอยู่ในดินหรือติดไปกับต้นไม้ สามารถใช้น้ำส้มควันไม้ผสมน้ำให้เจือจางฉีดพ่นได้ครับ ผิดถูกยังไงต้องขออภัยครับ ข้อมูลทั้งหมดได้จากการทดลองเลี้ยงของผมเองครับ
Comments
ความเห็นที่ 1
ความเห็นที่ 2
ความเห็นที่ 3
ความเห็นที่ 4
ความเห็นที่ 5
ความเห็นที่ 6
ผมเคยทำตู้แบบปิดกับกุ้งยังรอดเลยครับ อยู่ได้ปีกว่าๆ
ขอให้อัตราส่วน ดิน ความชื้น(น้ำ) และปริมาณต้นไม้ เหมาะสมก็พอแล้วครับ
อยู่ที่ความพอดี และสมดุล ^^
ความเห็นที่ 7
1. ถ้าเลี้ยงในขวดที่ปิด ปัจจัยที่จะคงที่คือ แสง และความชื้น
2 แต่เมื่อมีแสงมีการคายความร้อนภายในแต่น้ำไอน้ำไม่สามารถระเหยได้หรือไม่มีอากศถ่ายแท นั้นคือจะมีความร้อนอันเกิดจากการคายน้ำเกิดขึ้นครับ
3. ดังนั้นมอสบางชนิด จะไม่สามารถอยู่ในอากาศร้อน และชื้นได้ และที่ตามมาคือราจะขึ้นครับ
ความเห็นที่ 8
ความเห็นที่ 9
ความเห็นที่ 10
จากประสบการณ์ที่เลี้ยงอยู่นะพี่ จะมีมอสหรือเฟิร์นบางชนิดครับที่สามารถเลี้ยงในสวนขวดแบบปิดได้ วิธีการคือหาขวดใสที่มีฝาปิด (ฝาปิดใสโปร่งแสงยิ่งดี) ขวดแก้วดีกว่าขวดพลาสติกในเรื่องของอุณหภูมิและการส่องผ่านของแสง เมื่อได้ขวดที่เหมาะสมแล้ว ปูพื้นก้นขวดด้วยหินหรือทรายสูงประมาณ 1 นิ้ว ส่วนนี้เป็นส่วนกักเก็บน้ำ ชั้นด้านบนของทรายหรือหินปูทับด้วยสแฟกนัมมอสหรือขุยมะพร้าวหยาบ ชั้นนี้ไว้เก็บความชื้นและกันดินด้านบนลงไปปนในชั้นเก็บน้ำด้านล่าง ชั้นบนสุดใส่ดินหรือพีทมอส แล้วนำต้นไม้ลงปลูก พรมน้ำพอหมาดๆและระดับน้ำบริเวณชั้นหินที่กักเก็บน้ำด้านล่างสูงเท่ากับความหนาของชั้นหิน ปิดขวด ตั้งในที่แสงส่องถึง เช่นข้างหน้าต่าง แต่อย่าให้ถูกแดดโดยตรงครับ หากสองวันแรกแฉะเกินไปให้เปิดฝาขวดระบายไอน้ำออก ส่วนเรื่องราที่จะตามมาสามารถแก้ปัญหาได้โดยการใช้ปุ๋ยมูลไส้เดือน ร่วมกับน้ำหมักมูลไส้เดือนฉีดพ่น ในปุ๋ยไส้เดือนและน้ำหมักนอกจากจะเป็นปุ๋ยอย่างดีแล้ว ยังประกอบด้วยจุลินทรีย์จำนวนมากที่จะช่วยปรับสมดุลในสวนขวดครับ นอกจากนี้เมือกของไส้เดือนที่ปนอยู่ในปุ๋ยและน้ำหมักมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อราได้ แต่ถ้าวางในที่แสงส่องถึงปริมาณมากพอจะไม่พบปัญหาเรื่องราเลยครับ แต่ถ้าหากเกิดราขึ้นจำนวนมากซึ่งอาจเกิดจากเชื้อที่มีอยู่ในดินหรือติดไปกับต้นไม้ สามารถใช้น้ำส้มควันไม้ผสมน้ำให้เจือจางฉีดพ่นได้ครับ ผิดถูกยังไงต้องขออภัยครับ ข้อมูลทั้งหมดได้จากการทดลองเลี้ยงของผมเองครับ