พาเที่ยวสะพานปลาระนอง

ที่จริงตามงานแล้วต้องไปเหล่ๆปลาฉลาม แต่เกรงว่าจะกระทบเรื่องงาน(ตามสายบังคับบัญชา)เลยประเดิมด้วยของหวานของดิวน้อง ก่อนเชิญไปอยู่ใน SI

Praescutata viperina (สกุลเดิม Thalassophina) ลักษณะที่ใช้จำแนกคือเกล็ดท้องช่วงคอกว้างมาก(คล้ายๆงูบก) แต่เกล็ดท้องส่วนอื่นจะเล็กแบบงูทะเลทั่วๆไป

Comments

ความเห็นที่ 1

Lapemis curtus หรืองูอ้ายงั่ว เป็นงูที่มีความชุกชุมที่สุดทั้งสองฝั่งทะเลไทย เป็นชนิดหลักในอุตสาหกรรมเครื่องหนังงูทะเล  เมื่อก่อนเราใช้ชื่อว่า Lapemis hardwickii ต่อมาก็กลายเป็นชื่อพ้อง แต่ตอนนี้เจ้าแขกอินตะระเดียมาแยกเป็นสองชนิดอีก อย่างไรก็ตามงูตัวนี้ก็ยังอยู่ใน L. curtus แม้จะใช้การแยกของอินเดียแล้วก็ตาม แม้แว่บแรกที่เห็นลายผมเองก็งงๆจนต้องเก็บตัวอย่างมาตรวจสอบนี่แหละ
Lapemis curtus เกล็ดข้างตัวช่วงล่างมีขนาดใหญ่กว่าแถวช่วงบนอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นลักษณะจำแนกที่สำคัญยิ่ง

ความเห็นที่ 2

Microcephalophis gracilis หรือบางเอกสารใช้ว่า Hydrophis gracilis เป็นงูทะเลกลุ่มหัวเล็ก พิษร้ายอันดับแรกๆของโลก แต่หาใช่งูดุไม่ (ว่าไปแล้วก็ยังไม่เคยเจอตัวเป็นๆ จะรู้ได้ไงฟระว่าดุหรือเปล่า) ตัวนี้ก็เล่นทำจิตตกไปชั่วขณะ สุดท้ายก็สรุปว่า คีย์เขาผิด น่าจะพิมพ์อะไรสลับหรือเปล่า ประมาณนั้น ก็คงแจ้งเจ้าของเปเปอร์ต่อไป  ตัวนี้เป็นฟอร์มที่สีเข้มแปลกตาจนต้องสะดุดกึ้ก เลยสอยตัวอย่างมา โชคดีที่งานไม่เข้า
Microcephalophis gracilis ด้านท้องของมันเผื่อใครจะช่วยนับเกล็ดมาเทียบกับที่ผมนับได้บ้าง

ความเห็นที่ 3

Hydrophuis sp. ตอนเก็บตัวอย่างมาก็คิดว่างั้นๆ แค่ยังไม่เคยได้ตัวอย่างแต่น่าจะคีย์ไม่ยาก ไปๆมาๆ คีย์ที่มีในมือตอนนี้ดันคีย์ไม่ออก ไอ่ที่ออกก็ไม่ใช่ เพราะพอไล่รายละเอียดแล้วหลุดโผด้วยจำนวนเกล็ดที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว เลยต้องขอเวลาไปรื้อคีย์เพิ่มเติมก่อนครับ หน้าตามันธรรมดามากจริงๆนะ แต่...เฮ้อ....
Hydrophis sp. ใบหน้างามๆไม่น่าใจดำเลยแก้วตา..ที่ไม่ยอมให้รู้ชนิด

ความเห็นที่ 3.1

หน้าเหมือน "กัปปะ" ในการ์ตูนญี่ปุ่นเลย

ความเห็นที่ 4

Hydrophis spiralis เป็นงูทะเลที่ยาวที่สุดชนิดหนึ่ง เคยเจอตัวอย่าง(แต่สอยมามิได้)ยาวราว ๓ เมตรเศษ แต่ตัวนี้แค่ลูกเด็กของมันยาวแค่เมตรกว่าๆ เท่าที่เคยดูกระเป๋าหนังงูทะเล พบว่าหนังงูชนิดนี้ปรากฎถี่เป็นอันดับสองรองจากอ้ายงั่ว

ลป. ลืมชื่อสกุลใหม่ของมัน เลยขอใส่สกุลนี้ไปก่อน
Hydrophis spiralis

ความเห็นที่ 5

Hydrophis ornatus ชนิดนี้ค่อนข้างจะคุ้นเคยเลยไม่ได้เก็บตัวอย่างมาด้วย (เกรงใจเจ้าของเขาด้วยแหละ ไม่งั้นขอมาครบ ๗ ชนิดที่เห็นแล้ว) ไว้เจอรอบหน้าค่อยสอยอีกที แล้วอาจจะมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับมันเพิ่มเติม

อีกชนิดที่เห็นแล้วลืมถ่ายภาพไว้คือ Hydrophis cyancinctus ยังนึกไม่ออกว่าทำไมถึงลืม
Hydrophis ornatus

ความเห็นที่ 6

งูแค่นี้แหละ ที่คุ้ยๆเจอ ๗ ชนิด
sea_snake1.jpg

ความเห็นที่ 7

แล้วขอนำเสนอกุ้งมังกรน้ำลึกซะหน่อย ชื่อไทยไม่รู้ เอาชื่อวิทยาศาสตร์ไปเลย

Palinustus waguensis เป็นชนิดที่เคยมีรายงานในไทยแล้ว แต่ก็ยังงงๆกับภาพลายเส้นว่ามันวาดมั่วหรือเปล่า เพราะลักษณะหนามที่ใช้จำแนกมันไม่เหมือนนัก และขาก็ดูแปลกๆ แต่เอาเหอะ ยอมเชื่อเขาไปก่อน ไว้เจอ original description เมื่อไหร่ค่อยว่ากันอีกที
Palinustus waguensis

ความเห็นที่ 8

พักยกด้วยปลาสักกอง
napoleon.jpg

ความเห็นที่ 9

อยากลงไปดูใจแทบขาดแล้วครับ . . . .

ความเห็นที่ 10

Palinustus waguensis  เคยเห็นขายที่หน้าโรงอาหาร สมก เมื่อ 20 ปีก่อน ครั้งเดียว!!!!    #8 เจ้านกแก้วหัวค้อน Bulbometopon muricatum

ความเห็นที่ 10.1

อ่านประโยคนี้แล้วบ่งบอกอายุเลยท่าน ดร.แพนด้าน้ำ "โรงอาหาร สมก" หุๆๆ 
ปล. พึ่งรู้ว่าแต่ก่อนเด็กประมงเรียนว่ายน้ำในบ่อดินด้วย  ^___^
 

ความเห็นที่ 10.2

จ๊าก..นกแก้วจริงด้วย แต่ก็มีรูปนโปเลียนจริงๆนะ เพียงแค่ยังไม่ได้เอามาแปะ

ความเห็นที่ 10.2.1

อ้าว ผมนึกว่า นโปเลียน

ความเห็นที่ 11

2 ตัวนี้ละ ไงอะรู Mr Knotsnake(head) all from Inner Lake Songkhla, same as dolphin area.
web_5406.jpg web5412.jpg

ความเห็นที่ 11.1

ตัวหลังนี่ Hydrophis brookii จำแนกโดยจำได้ว่าเคยเห็น หางไม่แผ่กว้างมาก และรู้พื้นที่ด้วย เพราะมีข้อมูลพื้นที่พอดี หากจะจำแนกได้จริงๆต้องนับเกล็ดด้วย เพราะกลุ่มนี้หน้าตาคล้ายๆกันเยอะ

ส่วนตัวแรกเนี่ยน่าจะได้จากทะเลสาบสงขลาตอนใน Enhydrina chistosa ครับ (ถ้าถ่ยหัวชัดๆจะแจ่ม เพราะลักษณะจำแนกอยู่ที่จงอยปากครับ)

ความเห็นที่ 12

ละลานตามากเลยขอรับ

ความเห็นที่ 13

พวกตัวโตๆหัวเล็กๆ มันกินอะไรเป็นอาหารครับ?  ทำไมหัวต้องเล็ก?  เอาไว้ซุกไว้มุดรูตัวอะไรหรือเปล่า? 

ความเห็นที่ 13.1

หัวโตๆกินไม่เลือก หลักๆก็คือปลา ส่วนหัวเล็กๆใช้มุดรูกินปลาไหล กับปลาบู่ที่อยู่รูครับ

ความเห็นที่ 14

ผมนึกว่าชาวประมงได้มาจะคัดทิ้งเสียอีก
ไม่นึกจะหลงเหลือมาลงที่สะพานปลาด้วย น่าสนใจดีแฮะ laugh

ความเห็นที่ 14.1

ของขายได้นี่ครับ แต่กระผมจิ๊กเขามา

ความเห็นที่ 15

ละลานตามากครับ ขอบคุณสำหรับความรู้ครับผม

ความเห็นที่ 16

ขายหนังอย่างเดียว หรือเนื้อด้วยครับ

ความเห็นที่ 16.1

เห็นว่าเนื้อนำมาทำลูกชิ้นด้วยครับ

ความเห็นที่ 16.1.1

ปลาเส้นทาโร่ ลูกชิ้นปิงปอง 

ความเห็นที่ 16.1.1.1

จุ๊ จุ๊ พวกนั้นส่วนใหญ่ปลาปักเป้าครับ!!!

ความเห็นที่ 16.1.1.1.1

ปักเป้าจะไปสายปลาเส้นปรุงรส ส่วนงูทะเลจะไปสายลูกชิ้นปลาทั่วไปที่ผลิตระดับอุตสาหกรรมย่อยๆขึ้นไปครับ ถ้าทำขายในร้านตัวเองจะไม่เสียเวลาไปหางูมาผสมหรอก ลูกชิ้นปลาที่แพงๆในไทยก็มีที่ทำจากเนื้อปลา Caesio cunning สนนราคาหน้าร้านธรรมดาๆก็ประมาณลูกละ ๑๐ บาท แต่ไม่บอกหรอกว่าปลาชนิดนี้ได้มาจากการประมงวิธีไหน เหอๆๆๆ

ความเห็นที่ 16.1.1.1.1.1

บึ้ม!!!!ไง

ความเห็นที่ 16.1.1.1.2

น่าจะลองเอามาทำเป็นเมนูงูทะเลโดยเฉพาะเลย เปิดขายโต้งๆในนามของมันไปเลย อยากรู้จะเรียกลูกค้าเฉพาะกิจได้มั้ยครับ หรือจะเมินหนีกันหมด cheeky

ความเห็นที่ 17

ลูกชิ้นชั้นดีเลยแหละ ใน Philippines, Okinawa งูทะเลแห้งคืออาหารชั้นหรู จับโดยการดำไปคว้าคอมาเป็นพวงๆ แล้วก็โยนกองในเรือเล็กๆ มันก้เอาแต่เลื้อยยึกยือๆๆๆ ไม่กัดใคร!!!????

ความเห็นที่ 18

Hydrophine บางชนิดก้กินแต่ไข่ปลา ส่วนไอ้หัวเล็กเขาว่ามันกินตัวอ่อนปลา หรือไม่ก็ Leptocephali laevae

ความเห็นที่ 19

Enhidrina schistosa แสมรังปากจะงอย พร้อมหัว
ส่วน Hydrophis brookii ก็ฝักมะรุม สิ
ตัวผู้ สาว

ความเห็นที่ 19.1

โห..ดร.หมีน้ำหัวงู แสมรังปากจะงอยแจ่มมากเลยครับ แบบนี้ต้องให้ภาพน้องแจ่มเป็นรางวัล
jam_img_2581.jpg

ความเห็นที่ 20

โอย อ่านแล้วอยากกินจัง cheeky

ความเห็นที่ 21

เอานกขุนทองมาอวดบ้าง
fish.jpg

ความเห็นที่ 21.1

ตัวเป็นๆ ตัวเดียวที่ออสเตรเลียนี่เรียกลูกค้าได้ปีหนึ่งไม่รู้กี่พันคน เหอ เหอ

ความเห็นที่ 21.1.1

ตัวนี้ราคาประมูลที่ กก.ละ ๒๓๕ บาท มาเห็นตอนรถเริ่มออกแล้ว เลยได้รูปมาแค่นี้แหละ

ความเห็นที่ 22

ปลาตัวนี้หน้าตาธรรมดาๆ แต่ราคาไม่ธรรมดาเลย ชื่อท้องถิ่นคือ ปลาหน้าหงส์ สนนราคากิโลกรัมละไม่น้อยกว่า ๓๕๐ บาท ถ้าตัวใหญ่กว่านี้ ราคาต่อกิโลกรัมจะยิ่งเพิ่มขึ้น ทายสิว่าเพราะอะไรทำให้มันแพง...
fish2.jpg

ความเห็นที่ 22.1

เอามาทายกันแบบนี้ มันต้องมีสรรพคุณทางโด๊ปเป็นแน่

ความเห็นที่ 23

นี่ก็เป็นปลาราคาโหดอีกชนิดหนึ่งอย่างไม่น่าเชื่อ ราคา ณ เมื่อวานนี้ (๗ มิ.ย. ๕๔) สำหรับปลาขนาด ๑.๕-๒.๐ กิโลกรัม คือ ๕๐๐ บาท/กก. ซึ่งราคานี้เป็นราคาที่ประมูลจากแพ ไม่ใช่ราคาปลายทาง

ปลาตะลุมพุก หรือปลาหลุมพุก (Hilsa illisha) เป็นปลาที่เนื้อนุ่มมาก มีไขมันแทรกในเนื้อมากมายโดยเฉพาะราวท้อง แม้จะมีก้างฝอยมากมาย แต่หาใช่ปัญหาในการกินไม่ ขนาดที่เริ่มอร่อยจะตั้งมีน้ำหนักประมาณ ๑ กิโลกรัมขึ้นไป ถ้าตัวเล็กกว่านี้ ราคาจะถูกลงเหมือนมาคนละทางกันเลย ปลาชนิดนี้ยิ่งใหญ่ก็ยิ่งมีราคาต่อหน่วยแพงขึ้นเช่นกัน หากใครมาระนองแล้วไม่ได้กินปลาตะลุมพุกต้มหวาน นับว่ายังไม่ถึงระนอง
fish3.jpg

ความเห็นที่ 23.1

งั้นผมก็ไปถึงแล้วสิพี่ เหอๆ แต่กว่าจะไป กินเวลาเกือบปีเชียว 555

ความเห็นที่ 24

กั้งกระดาน (Thenus unimaculatus) สัตว์น้ำที่จะต้องมาเป็นลูกรักของข้าพเจ้าในอีกสองปีข้างหน้าตัวนี้สนนราคา ๓๕๐-๓๙๐ บาท/กก. เดิมทีกั้งกระดานชนิดนี้ถูกเหมารวมในนาม Thenus orientalis ต่อมามีการรีวิวโดยชาวออสซี่ พบว่าทางฝั่งทะเลอันดามันแทบจะเรียกว่าไม่เจอชนิดดังกล่าวเลย แต่มีชนิด Thenus indicus ที่อยู่ปะปนกันบ้างเล็กน้อย (แต่เท่าที่พยายามเพ่งๆหาก็ยังไม่เจอ) ลักษณะเด่นที่ไม่ต้องใช้ความพยายามมากในการจำแนกคือ ตุ่มๆที่กระดองของมันเป็นสีม่วงเด่นขึ้นมา (ชนิดอื่นมีสีเดียวกับกระดอง) ใต้ขาเดินมีแต้มสีม่วงชัดเจน (บางตัวอาจแต้มเล็กหน่อย อย่าว่ากันนะ) ขาละแต้ม เลยเป็นที่มาของชื่อ unimaculatus นั่นเอง
Thenus unimaculatus ใต้ขาเดินมีแต้มสีม่วง เป็นลักษณะเด่นของกั้งกระดานชนิดนี้

ความเห็นที่ 25

พักสายตาอีกครั้งด้วยปลาสีเห่ยๆ ไม่ทราบราคาประมูล เนื่องจากไม่ได้อยู่ตอนประมูล เอาเป็นว่าแบ๊งค์ ๑๐๐๐ บาทใบเดียวเอาไม่อยู่ก็แล้วกัน
fish4.jpg

ความเห็นที่ 25.1

แล้วทำไมตัวนี้ถึงแพงละครับ

ความเห็นที่ 26

ได้ความรู้ขนาดจัดหนักเลยครับ 

มีข้อสงสัยอีกอย่างครับ

งูทะเลที่เป็นแบบหัวโต ใช้วิธีงับเหยื่อ แล้วปล่อยพิษ ให้เหยื่อตาย 

หรืองับแล้วกลืนเลยครับ 

ความเห็นที่ 26.1

ถ้าเหยื่อไม่ดิ้นรนนักมันก็กลืนได้เลยครับ แบบงูเห่าก็มีพฤติกรรมการกินแบบนี้เหมือนกัน แต่ต่างที่งูทะเลงับเหยื่อแล้วไม่ปล่อย แต่งูเห่านั้นหากเหยื่อแรงเยอะไปก็ปล่อยแล้วตามไปกิน

ความเห็นที่ 27

โห..ดร.หมีน้ำหัวงู แสมรังปากจะงอยแจ่มมากเลยครับ แบบนี้ต้องให้ภาพน้องแจ่มเป็นรางวัล
ชอบๆ กด like 100000 ที ถูกสเปคหัวงูที่สุด ว่าแต่ว่า มีเบอร์ไม้ล่ะ!!!!??????

ความเห็นที่ 27.1

โชว์เบอร์ที่ไมค์แล้วครับ

นี่ขนาดเห็นแค่เบลอยังเป็นขนาดนี้ ถ้าเจอทั้งตัวสงสัย..

ความเห็นที่ 28

เห็นปลาหลุมพุกแล้วนึกถึงคุณพ่อ ของโปรดแกเลย - -*

ความเห็นที่ 29

กระเบนขนุน (Urogymnus asperrimus) เคยเจอครั้งแรกเมื่อเจ็ดแปดปีที่แล้วตัวกว่า ๖๐๐ กก. มาคราวนี้ได้เจอตัวเล็กๆ (ก็ซัดไปกว่า ๒๐ กก.) เลยมีโอกาสสอยภาพด้วยกล้องป๊อกแป๊ก ผมว่าเป็นกระเบนที่งามมากชนิดหนึ่งเลย โดยเฉพาะสีที่เหมือนเป็นปลาเผือก (albinism) แต่แท้จริงสีมันเป็นเช่นนั้นเอง
urogymnus_asperrimus.jpg

ความเห็นที่ 30

Taeniura meyeni  ปกติเจอตัวมากกว่า ๘๐ กก. มาตัวนี้กำลังน่ารัก

ปล. ถ้าผมระบุชื่อผิดก็รบกวนแก้ไขให้ด้วยนะขอรับ
taeniura_meyeni.jpg

ความเห็นที่ 31

พวกงูทะเลที่ตายแล้วนี่ใส่เข่งรวมๆ สมมุติว่าเราไปหยิบหรือไปโดนเขี้ยวในปากมันเข้าโดยบังเอิญ พิษมันจะเข้าสู่ร่างกายเรามั้ยครับ ( มองเหมือนว่าถ้าติดอวนขึ้นมาคงปลดกันแบบแหยงๆ อยู่ รึเขาจะเคยชินซะก็ไม่รู้)

ความเห็นที่ 31.1

ขึ้นอยู่กับกรรมเก่าครับ แต่ที่อยู่ในเข่งนั้นเราคงโชคดีกว่าเพราอย่างน้อยมันก็ไม่ได้ปล่อยพิษจากต่อมพิษเพิ่มให้เรา เพียงแค่มีพิษติดปลายเขี้ยวเล็กน้อย (แต่อาจมากพอ) ชาวประมงนั้นก็ตายจะการโดนเขี้ยวพิษ (ไม่ได้โดนกัดนะ) โดยบังเอิญมาเยอะแล้วครับ โดยเฉพาะตอนกู้อวนขึ้นมา

ตอนผมรื้อในตะกร้ายังต้องคอยระวังเหมือนกันครับ โดยการจับที่ตัวงูแล้วยกมาพาดขอบตะกร้าเรื่อยๆ ถ้าเอามือแหวกไปเลยก็จะเสี่ยงเกินไปกับความผิดพลาดโดยปราศจากเซรุ่ม

ความเห็นที่ 32

กลุ่มลายเสือดาว ลายงูนี่ผมมึนกับมันมาก เพราะไม่มีโอกาสไปกางคีย์ที่สะพานปลา ได้แต่รีบๆถ่ายรูป แล้วก็ไม่ได้มุมที่หลากหลายนัก เพราะบางตัวใหญ่เกินกว่าจะจับพลิกหงายได้ เลยกลายเป็นเอามาเทียบลาย และลักษณะอื่นที่พอมองออก หากประสงค์ชี้แนะ เชิญตามสะดวกเลยขอรับ กลุ่มกระเบนก็เป็นยาขมของผมพองามเลย

Himantura undulata

Himantura leoparda
himantura_undulata.jpg himantura_leoparda.jpg

ความเห็นที่ 33

คน..เรานี่มันสุดยอดจริงๆ  กินได้หมด..

ความเห็นที่ 34

นี่ขนาดเห็นแค่เบลอยังเป็นขนาดนี้ ถ้าเจอทั้งตัวสงสัย.. ปิ๊งแหน่วววววว....

#22 Leptomelanosoma indica ทำข้าวต้ม เกาเหลา อร่อยนักแล
#25  Epinephelus flavocaeruleus หายากโคตรในไทย แต่ common  ใน Japan

ความเห็นที่ 34.1

#๒๕ มาจากน่านน้ำอินเดีย(ฝั่งตะวันออกเกาะนิโคบาร์)เรื่อยๆครับ เรือเบ็ดก็ไปสอยมาเยอะเหมือนกัน ใช้เบ็ดมือสาวเอาอีกต่างหาก

ความเห็นที่ 35

ชมปลากันจุใจเลยพี่ท่าน เห็นแล้วคิดถึงสะพานปลาที่กันตัง TT

ความเห็นที่ 36

สงสัยต้องลงไปหาท่านเสียแล้ว ตอนนี้มีแต่เอกสารในมือ ไม่มีตัวเทียบ ,,

ความเห็นที่ 37


กระทู้จัดเต็มแบบนี้ไม่เจอมานานแล้ว yes  ดีใจจัง  heart

ความเห็นที่ 38

โฮ๊ะ ตัวไหนเอาไปลง SI ได้บ้างครับนี่?  โดยเฉพาะพวกกระเบนกับเจ้าปลาเก๋า ตัวไหนเจอในไทยบ้างครับ?

ความเห็นที่ 38.1

ทุกชนิดในที่นี้สามารถพบได้ในน่านน้ำไทยทั้งหมดครับ เพียงแต่เจ้าตัวในนี้บางตัวเป็นชาวต่างด้าว

ความเห็นที่ 39

ได้รับความรู้แบบเต็มๆ ขอบคุณมากค่ะท่านพี่

ความเห็นที่ 40

น่าสงสัยเหมือนกันว่าทำไมงูพวกนี้จึงมีพิษรุนแรงมาก? เพราะเหยื่อของมันเองก็ไม่ได้ตัวโตมากมายอะไรนัก ยิ่งบางชนิดกินลูกปลาเล็กๆกับไข่ปลา นี่พิษแทบไม่มีความหมายเลย เพราะใช้แค่พลังตัวเองล้วนๆก็เอาอยู่
ส่วนเรื่องป้องกันตัวนั้น เท่าที่สังเกต(จากสารคดี) งูทะเลหลายชนิดพอถูกคนหรือเหยี่ยวจับขึ้นจากน้ำเมื่อไหร่ มันก็มักจะตัวพับตัวอ่อน หันกลับมาแว้งกัดศัตรูก็แทบไม่ได้เลย พิษแรงๆก็ดูเหมือนจะไม่ได้ช่วยมันมากนัก

ความเห็นที่ 41

เดา..

ที่มันต้องมีพิษแรงเพราะ เขี้ยวพิษมันเล็กมาก เวลากัดในน้ำก็มีโอกาสเจือจางลงไปอีก แล้วยิ่งพวกลงรูปลาไหลนั้นต้องออกแรงมากหากต้องสู้กันซึ่งๆหน้า เพราะปลาไหลส่วนใหญ่แข็งแรงมาก ดังนั้นจึงเพิ่มประสิทธิภาพของพิษเพื่อแก้ปัญหาข้างต้น คือถ้าเหยื่อได้รับพิษที่แม้เจอจางแล้ว แต่ก็ยังคงประสิทธิภาพในการยับยั้งเหยื่อได้อย่างสบายๆกระมังครับ