ข่าว: แมงกระพรุนไฟ ภูเก็ต

http://www.thairath.co.th/content/region/181164
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNd09EZ3lNVGt5TXc9...
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000075587

ชี้แมงกะพรุนหาดภูเก็ต หนวดมีพิษ75%ของงูเห่า

 จากกรณีมีข่าวพบแมงกะพรุนพิษเกลื่อนชายหาดภูเก็ต ล่าสุด เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. นายอุกกฤต สตภูมินทร์ นักวิชาการชำนาญการพิเศษ รักษาการผอ.สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. เจ้าหน้าที่สถาบันฯได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำหาดในหาน ว่ามีแมงกะพรุนเกยตื้นบริเวณหาดในหานและหาดในทอน จ.ภูเก็ต โดยมีการเก็บตัวอย่างแมงกะพรุนที่ยังมีชีวิตไว้ 6 ตัว หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ของสถาบันของสถาบันฯ ได้เดินสำรวจตามแนวหาดพบตัวอย่างแมงกะพรุนเกยตื้นและรวบรวมได้จำนวน 9 ตัว ก่อนหน้านั้นหาดในทอน พบ 2 ตัว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำหาดในทอนแจ้งว่าเคยพบแมงกะพรุนชนิดนี้ใน ช่วงเดือนมิ.ย.-ก.ค. ทั้งนี้ผลการจำแนกชนิดตัวอย่างแมงกะพรุนเบื้องต้น พบว่าเป็นแมงกะพรุนกลุ่ม Hydrozoa วงศ์ Physalidae ชนิด Physalia sp. ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มของแมงกะพรุนไฟ

 

 “โดยระดับความเป็นพิษของแมงกะพรุนชนิดนี้พบมากได้ทั่วไปในเขตน้ำอุ่น โดยมีรายงานพบบ่อยในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งฝั่งทะเลอันดามันมีรายงานการพบแมงกะพรุนชนิดนี้เป็นครั้งแรก หากมีการสัมผัสทำให้เกิดการบาดเจ็บในหลายระดับขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ตั้งแต่อาการแสบคันจนถึงปวดแสบปวดร้อน รวมถึงมีอาการไข้ ช็อค และเกิดความผิดปกติกับหัวใจและปอด ในกรณีที่รุนแรงที่สุดทำให้เสียชีวิตได้ สารพิษที่พบในสายหนวดของแมงกะพรุนชนิดนี้มีความรุนแรงประมาณร้อยละ 75 ของพิษงูเห่า”

 

 นายอุกกฤต กล่าวย้ำว่า จำนวนแมงกะพรุนที่พบทั้งสองหาดภูเก็ตมีไม่ถึง 10 ตัว มีพิษในระดับหนึ่งเท่านั้นไม่ใช่แมงกะพรุนชนิดที่ร้ายแรงขนาดสัมผัสร่างกาย มนุษย์แล้วถึงกับเสียชีวิต อย่างไรก็ตามสำหรับข้อควรระวัง ตามหลักวิชาการแล้วแมงกะพรุนชนิดนี้มักมีการเกยตื้นบริเวณชายหาด มีสีฟ้าสด เป็นที่สะดุดตาของผู้ที่พบเห็น ผู้ที่ไม่ทราบแล้วไปสัมผัสกับแมงกะพรุนชนิดนี้อาจจะได้รับพิษได้ ส่วนที่อยู่ในน้ำนักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำอาจจะสัมผัสแมงกะพรุนและได้รับ บาดเจ็บ จึงเห็นควรให้แจ้งเตือนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำหาดและนักท่อง เที่ยว ให้สวมเสื้อแขนยาว กางเกงยาวคลุมเข่า เพื่อลดโอกาสได้รับบาดเจ็บ
ที่มา http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNd09EZ3lNVGt5TXc9...

Comments

ความเห็นที่ 1

ข้อปฏิบัติเวลาโดนพิษจากแมงกะพรุนกลุ่ม Hydrozoa จะต่างกับของแมงกะพรุนทั่วไปครับ บางหนังสือพิมพ์ให้ใช้น้ำส้มสายชูราด เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องนะครับ อันนี้ก็อปมาจากเว็บให้ดูครับ สำหรับในกลุ่ม Physalia

IMMEDIATE FIRST AID ADVICE:

1.    Rinse the area liberally with seawater or fresh water to remove any tentacles stuck to the skin. This can be from a spray bottle or in a beach shower. Do not apply vinegar. A study shows that vinegar in these stings sometimes makes the sting worse. (Portuguese man-of-wars belong to a different family than box jellyfish [Carybdea alata] and therefore must be treated separately.)

2.    For severe pain, try applying heat or cold, whichever feels better to the victim.

3.    Few Portuguese man-of-war stings in Hawai`i cause life-threatening reactions, but this is always a possibility. Some people are extremely sensitive to the venom; a few have allergic reactions. Consider even the slightest breathing difficulty, or altered level of consciousness, a medical emergency. Call for help and use automatic epinephrine injector if available.


ที่มา: http://www.aloha.com/~lifeguards/portugue.html
 

ความเห็นที่ 2

ดูภาพชัดๆที่เว็บนี้ครับ

http://phuketandamannews.com/24-06-54/news04.html

ความเห็นที่ 2.1

ชัดมาก อยากเห็นของจริง

ความเห็นที่ 3

ไปภูเก็ตจันทร์นี้ จะทันไหมเนี่ย

ความเห็นที่ 4

ุถ่ายแสงสวยๆของสวยนะตัวนี้สีฟ้าสวยเชียว

ความเห็นที่ 5

ที่ตรังเจอนานแล้วนะ 

ความเห็นที่ 5.1

ที่พิพิธภัณฑ์ฯสวพ.ภูเก็ตก็มีตัวอย่างเก่าๆอยู่ ตัวเล็ก ไม่ได้ระบุชนิด ลงแค่ Physalia sp. ไว้
ถ้าว่ากันตามการกระจายก็เป็น P. utriculus หมด แถมลักษณะยังไม่มีใบเรือเหมือนกัน

ความเห็นที่ 5.1.1

ครับพี่ ที่ตรังผมเจอหน้ามรสุม ลอยมาที่หาดปากเมงประจำ  ^^

ความเห็นที่ 6

มายืนยันด้วยคนครัยว่าที่ตรังก็เจอนานเเล้ว ผมเคยเจอตอนเก็บตัวอย่างเมื่อประมานปี 2549ได้

ความเห็นที่ 7

http://www.youtube.com/watch?v=uLobxS1Vaio&feature=related

ด้คลิปนี้ช่วยไขข้อข้องใจได้เยอะเลยค่ะ ^^