ข่าว : รวบ2พรานญวน-หนี3 ล่าเสือทุ่งใหญ่


พรานโหด - ภาพพรานชาวเวียดนามนั่งคร่อมซากเสือที่ถ่ายด้วยมือถือ
ก่อนที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตามจับนายฮอง แวน เหงียน
และนายหน่าย แซ่ท้าว พรานชาวเวียดนาม พร้อมอาวุธปืนที่ใช้ฆ่าเสือ
ที่บริเวณป่ารอยต่อระหว่างทุ่งใหญ่นเรศวรกับ อ.อุ้มผาง จ.ตาก
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน


จน ท.อุทยานห้วยขาแข้งโชว์ฝีมือจับแก๊งพรานเวียดนาม ลอบล่าสัตว์ในป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ผงะภาพในโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหายืนคู่กับซากเสือโคร่ง หมูป่า และงาช้าง รองอธิบดี ทส.ระบุทำเป็นขบวนการ ถือพาสปอร์ตอ้างเป็นนักท่องเที่ยวเลาะเข้าทางเชียงราย สงสัยเป็นกลุ่มเดียวกับที่วางยาฆ่าลูกเสือ

นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 29 มิถุนายนว่า เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติห้วยขาแข้ง อ.อุ้มผาง จ.ตาก จับกุมพรานชาวเวียดนาม 2 คน ทราบชื่อนายฮอง แวน เหงียน และนายหน่าย แซ่ท้าว พร้อมอาวุธปืน เมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา บริเวณป่ารอยต่อระหว่างทุ่งใหญ่นเรศวรกับ อ.อุ้มผาง พบของกลางมีทั้งไม้กฤษณา ซากหมูป่า นอกจากนี้ยังตรวจสอบภาพถ่ายในโทรศัพท์มือถือพบผู้ต้องหาถ่ายภาพคู่กับซาก เสือโคร่ง และงาช้าง

นายธีรภัทรกล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพเข้ามาล่าสัตว์และตัดไม้กฤษณาในพื้นที่ อุทยานฯดังกล่าวจำนวน 5 คน ที่เหลือหลบหนีได้ 3 คน เป็นชาวเวียดนาม 2 คน และชาวม้ง 1 คน คาดว่า จะได้ตัวเร็วๆ นี้

นายธีรภัทรกล่าวว่า เหตุจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ขณะเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนห้วยขาแข้ง นำโดยนายพลวีร์ บูชาเกียรติ ลาดตระเวนในพื้นที่ทุ่งใหญ่นเรศวร พื้นที่ติดกับ อ.อุ้มผาง พบนายพราน 3 คน ถือปืนเดินสวนทางมา ระหว่างนั้นนายพรานตะโกนว่าทางใครทางมัน และเปิดฉากยิงปะทะกัน กลุ่มนายพรานหลบหนีโดยทิ้งของกลางไว้มีโทรศัพท์มือถือ ซากเนื้อหมูป่ารมควัน 3 กิโลกรัม และไม้กฤษณา 13.2 กิโลกรัม

"สิ่ง ที่สร้างความตกใจไม่น้อยคือเมื่อตรวจสอบจากโทรศัพท์ พบภาพถ่ายของนายหน่าย ถือปืนอาก้า เอ เค 47 และนั่งอยู่บนซากเสือโคร่งทั้งตัว และยังพบภาพถ่ายงาช้าง และภาพถ่ายเพื่อนอีกคนสะพายปืนพร้อมซากหัวหมู่ป่า และเขี้ยวเสือ นอกจากนั้นยังพบรอยเลือดของคน ที่คาดว่าจะได้รับบาดเจ็บ" นายธีรภัทรกล่าว

นายธีรภัทธกล่าวว่า ต่อมาในวันที่ 25 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ตามรอยเลือดไปถึงป่าทุ่งใหญ่นเรศวร และพบซากหมู่ป่าอีก 2.2 กิโลกรัม คาดว่าน่าจะเป็นของนายพรานกลุ่มเดียวกัน วันที่ 26 มิถุนายน เจ้าหน้าที่ลาดตระเวนเดินทางไปถึงหมู่บ้านเซปาหล่ะ ต.แม่ระมุ้ง อ.อุ้มผาง จ.ตาก ที่คาดว่านายพรานจะหลบหนีเข้ามาอยู่ จึงแจ้งให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในโครงการจอมป่าทราบ และช่วยกันตรวจสอบ กระทั่งมีพลเมืองดีมาแจ้งว่ามีคนเดินไม่ใส่รองเท้า อ้างว่ารถเสียและเป็นนักท่องเที่ยว เจ้าหน้าที่ติดตามไปพบตัวนายฮอง แวน เหงียน ชาวเวียดนาม นอนอยู่ในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง จึงเข้าจับกุมตัวเมื่อ 26 มิถุนายน และยังจับกุมนายหน่าย ในเช้าวันรุ่งขึ้น พร้อมอาวุธปืน .22 กระสุนปืนอีก 60 นัด

นายหน่ายสารภาพว่าเดินทางเข้าประเทศไทย 5 คน เป็นชาวเวียดนาม 3 คน ชาวม้ง 2 คน เพื่อลักลอบตัดไม้กฤษณา ส่วนภาพเสือโคร่งนายหน่ายอ้างว่าใช้ปืนอาก้ายิงมาจากประเทศพม่า นำหนังและกระดูกเสือโคร่งไปขายได้เงินจำนวน 300,000 บาท อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบลายเสือตัวที่อยู่ในรูปและเสือที่ทุ่งใหญ่พบว่าลักษณะลายน่าจะ เป็นเสือจากทุ่งใหญ่นเรศวร และขณะนี้กำลังตรวจสอบลายและล่าตัวพรานอีก 3 คนที่ยังหลบหนีอยู่

"การจับกุมนายพรานชาวเวียดนามครั้งนี้น่าจะทำ เป็นขบวนการ ผู้ต้องหาทั้งสองคนยังไม่ซัดทอดใคร ส่วนรูปเสือในกล้องน่าจะส่งไปให้กับกลุ่มผู้ซื้อเพื่อต่อรองราคา แต่ถูกจับได้เสียก่อน และที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯจับนายพรานชาวเวียดนาม, กัมพูชาที่เข้ามาในรูปแบบนักท่องเที่ยวและแรงงานข้ามชาติลักลอบ เข้ามาบริเวณชายแดนแม่สอด และคลองลาน จ.นครสวรรค์ เพื่อตัดไม้กฤษณา พร้อมกับล่าสัตว์ ขณะนี้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารไล่ล่านายพราน และสาวไปถึงตัวผู้อยู่เบื้องหลังขบวนการนี้" นายธีรภัทรกล่าว

นาย ศักดิ์สิทธิ์ ซิ้มเจริญ ผู้อำนวยการ อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหาร พื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 นครสวรรค์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบลายพาดกลอนของเสือโคร่งที่นายหน่ายบันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือ ยืนยันได้ว่าเป็นเสือโคร่งจากป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ไม่ใช่เสือจากพม่าตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้างอย่างแน่นอน เพราะก่อนหน้านี้ทีมวิจัยถ่ายภาพประชากรเสือโคร่งในเขตป่าทั้งสอง พบเสือตัวนี้แต่ยังไม่ได้ ตั้งชื่อ แต่มีการถ่ายภาพเมื่อเดือนตุลาคม และ ตั้งรหัส หลังจากนั้นก็ไม่เจอตัวเสือตัวนี้อีก ดูจากลายหน้าผากเสือแล้วเป็นตัวเดียวกัน และเป็นขบวนการเดียวกันที่วางยาฆ่าเสือแม่ลูกเมื่อปีที่ผ่านมา

นาย สุนันต์ อรุณนพรัตน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ กล่าวว่า ล่าสุด ตำรวจพบหลักฐานพาสปอร์ตของนายฮอง แวน เหงียน เดินทางเข้าประเทศไทย เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน จากด่านเชียงของ จ.เชียงราย อ้างเป็นนักท่องเที่ยว และคาดว่าน่าจะมีพรรคพวกอยู่ในประเทศไทย เป็นคนเปิดช่องทางให้เข้ามาล่าเสือสัตว์ป่าชนิดอื่นๆ และลักลอบตัดไม้กฤษณาที่มีราคาแพงมากไปขายให้นายทุน

นายสุนันต์กล่าวว่า สั่งการให้ขยายผลจับ นายพรานกลุ่มนี้ที่ยังหลบหนีเพื่อตัดวงจรอุบาทว์

(กรอบบ่าย)


ที่มา : http://www.matichon.co.th/daily/view_news.php?newsid=01p0116300654_decod...

Comments

ความเห็นที่ 1

ขอให้เวรกรรมตามสนองทั้งขบวนการ

ความเห็นที่ 2

พูดไม่ออก...

ความเห็นที่ 3

-*-

ความเห็นที่ 4

เศร้าใจ crying

ความเห็นที่ 5

สะเทือนใจ.... crying

ความเห็นที่ 6

คิดว่าเท่ห์เสียเต็มประดา ทำเป็นรพินทร์ไปได้

ความเห็นที่ 7

เวร

และขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ไทยครับ

ความเห็นที่ 8

น่ากระทืบก่อนแล้วดำเนินคดี

ความเห็นที่ 9

ตรวจสอบจากลาย...น่าสนใจเหมือนกันขอรับ

ความเห็นที่ 10

เฮ้อย...

ความเห็นที่ 11

หากินข้ามประเทศเลย

ความเห็นที่ 12

ทำไมผมอ่านข่าวแล้วแค้นๆ ในใจอย่างไรบอกไม่ถูก
 

ความเห็นที่ 12.1

เหมือนกัน

ความเห็นที่ 13

อ้างไปได้นะครับว่ายิงที่พม่า

ตรวจไฟล์รูป และพาสสปอตไปเลย เข้ามาวันไหน ก็รู้เรื่อง

ความเห็นที่ 14

น้ำตาจะไหลcrying

ความเห็นที่ 15

มันน่าจะตายตามเสือเสียเลย...อยู่ก็รกโลก
เสืออยู่ที่ไหน..ไทย..พม่า..มันก้อเป็น เสีอ ของโลก

ความเห็นที่ 16

อีกมุมหนึ่งของสังคม...นายทุนมีเงินจ้างนายพราน สืบ เสาะหา จ้างว่าล่า(ฆ่า)เอามา...
ประเภท ผมไม่ได้ฆ่า ผมไม่ผิด นายพรานฆ่า นายพรานผิด(บาป) ทั้งตามกฏหมาย และจริยธรรม ภวนาให้อย่างน้อยเรามีกฏหมาย หรือ วิธีการใดก็ตามซัดทอดถึงคนสั่ง(ตัวการ) ได้บ้างก็ดีค่ะ

ความเห็นที่ 17

เจ้าหน้าที่บ้านเราไม่ทันเกมส์เล้ย ยิงลงพื้นซักนัดหรือสองนัดแล้วก็ยิงหัว ก็จบข่าวแล้ว รุ่งขึ้น ก็พาดหัวข่าวพรานป่าจากเวียดนามเข้ามาล่าสัตว์ในห้วยขาแข้ง เจ้าหน้าที่ตรวจพบเกิดการยิงปะทะกันโดยคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงตอบโต้เจ้าหน้าทที เจ้าหน้าที่เลยต้องใช้อาวุธเพื่อป้องกันตัวเอง ผลคนร้ายตายสอง เจ้าหน้าที่บาดเจ็บเล็กน้อยเพราะโดนหนามเกี่ยว แค่เนี่ยะก็จบแล้ว ตรวจพบซากสัตว์ที่ถูกล่ามากมาย ซึ่งกำลังรอการพิสูจน์ว่าเป็นซากของสัตว์ชนิดใดบ้าง อิอิ

ความเห็นที่ 17.1

กด like 100000000 ที