ข่าว: เตรียมเ๊ช็คบิลนายทุน ยึดวังน้ำเขียวคืน

นายสุวิทย์ รัตนมณี อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เตรียมลุยหลังได้รับเรือ่งร้องเรียน
โดยปฏิบัติการเชิงรุกครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การจัดระเบียบเท่านั้น แต่จะเน้นการยึดคืนพื้นที่ป่า !!

http://www.thairath.co.th/content/edu/185581
http://www.thairath.co.th/today/view/185953
http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content_decode_en...

Comments

ความเห็นที่ 1

ทำได้จริงก็จะดีมาก ยึดจนมันเชื่อมกับป่าเขมรได้ยิ่งดี! 

ความเห็นที่ 2

ฟังข่าวแล้วงง ครับ
ว่า เป็นบ้านเป็น รีสอร์ท   ของพวกนี้ มัน  ยกมาวางก็เสร็จ หรือ ครับ
ปล่อยจน มันสร้างเสร็จ ก่อน แล้วค่อยตรวจสอบ  ระหว่างนั่น รออะไรอยู่   รอให้ ทรัพยากร โดน ตัด ขุด โค่น ถอน ถม  ก่อนหรือ

หรือ เค้า รอให้ สิ่งก่อสร้างพวกนี้เสร็จ ก่อน แล้วค่อยยึดเป็นของหลวง

ความเห็นที่ 3

เส้นสายแต่ละราย ทีจะซื้อที่แถวนั้นได้ ไม่ใช่ชาวบ้านทั่ว ๆ ไปนะครับ

ความเห็นที่ 4

แถบนั้น ตอคงเย่อะ กลัวเจอตอแล้วถอย.

ความเห็นที่ 5

ข้อมูลเล็กๆครับ ในฐานะที่เป็นคนที่มีสวนอยู่วังน้ำเขียว

บางพื้นที่ในบริเวณนั้น (ต.ไทยสามัคคี) พวกป่าไม้กับกรมการปกครอง

จัดสรรพื้นที่บริเวณตีนเขา ใกล้เขตแนวกันไฟ ให้กับเกษตกรที่ไม่มีที่ดินทำกิน ชื่อ หมู่บ้านไทยเข้มแข็ง

โดยเอาหมู่บ้านไปตั้งไว้ตรงนั้น เพื่อที่จะได้ไม่มีใครไปรุกที่ตรงนั้นต่อ

ให้คนละกี่ไร่ก็จำไม่ได้แล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าตอนนี้มีทั้งครูทั้ง พ่อค้า ที่เข้าไปสร้างบ้านอยู่ในจุดนั้น

มีรถเข้าออกตลอดวัน ทั้งรถเก๋ง รถกระบะ ซึ่งชาวบ้านที่บอกว่าไม่มีที่ทำกิน คงไม่มีปัญญาซื้อรถแบบนั้น

มาใช้ขนพืชผลทางการเกษตรแน่นอน ผมเองค่อนข้างมั่นใจว่า ชาวบ้านคงจะโดนสวมสิทธิ์ ไม่ก็โดนซื้อสิทธิ์

ไปแล้ว

น่ากลัวตรงที่ว่า หน่วยราชการ จะรู้เห็นด้วยตั้งแต่ตอนออกสิทธิ์ให้ชาวบ้านหรือเปล่า? เพราะจำได้ว่าเคยมีสถานีโทรทัศน์ช่องนึง เคยนำเสนอเรื่องที่ดิน สปก. กับ ภบท๕ ที่โดนเอาไปทำรีสอร์ท เป็นสกู๊ปใหญ่
ออกข่าวช่วงเย็นหนึ่งสัปดาห์เต็มๆ ปรากฏว่ารายงานข่าวได้สองสามวัน สกู๊ปนั้นก็โดนถอดออกไปเลย

ความเห็นที่ 6

สปก. เดียวนี้เค้าซื้อขายกันแล้วครับ ขายโดยใช้วิธีทำสัญญาโดยมีคนในพื้นที่เป็นพยาน ประมาณนี้ครับ 

พูดมากไม่ได้เดียวโดนเก็บ laugh

ความเห็นที่ 7

ซื้อขายโดยทำสัญญาว่าจะซื้อจะขาย ณ วันที่สามารถจะซื้อจะขายได้ในอนาคต แล้วทำสัญญาเซ็นท์โอน มอบอำนาจให้ไปกระทำแทนไว้ล่วงหน้าเลย ถึงวันนั้น คนซื็อก็แค่เอาเอกสารพวกนี้ไปโอน ง่ายมาก คนขายไปบุกที่ต่อที่ไหนก็ไม่รู้และ

ความเห็นที่ 8

เฮ้อย...

ความเห็นที่ 9

ความเห็นที่ 10

95% ของ สปก เปลี่ยนจากมือชาวบ้านไปอยู่ในมือนายทุน !!

ความเห็นที่ 11

เนื่องจากพื้นที่วังน้ำเขียวก่อนหน้านี้จะมีเขาหัวโล้นเยอะ เนื่องจากชาวบ้านทำไร่ข้าวโพด ไร่มัน มีการถากถางพื้นที่ไปมิใช่น้อย ดังนั้นจึงมีการกำหนดพื้นที่ป่าขึ้นมาโดยมีถนนกันไฟเกิดขึ้นหากเรามองอีกแง่นึง มีกลุ่มบุคคลเข้าไปทำรีสอร์ทแต่หากทำไม่ได้เข้าเขคป่า เท่ากับว่ามียามคอยป้องกันป่าไม้และสัตว์ป่า หน้าที่ของกรมป่าไม้ควรจะให้ความรู้และเข้าไปหาคนร่วมกันรักษาแทนที่จะตามยึด ซึ่งแต่ละรีสอร์ทต้องการทำให้เกิดความร่มรื่นอยู่แล้วซึ่งสามารถคอยดูแลตัดหญ้าเพื่อไม่ให้เกิดไฟป่า และอาจมีการควบคุมการก่อสร้างและปรับพื้นที่ ดีกว่าให้ชาวบ้านตัวจริงทำไร่ไถจนเขาหัวโล้นไปหมด และก็ยังให้ชาวบ้านมีรายได้ ภาครัฐไม่สามารถเอาเงินทุนมาในการจ้างลูกจ้างป่าไม้ได้มากเท่ากับให้ชุมชนควบคุมกันเองหรอกครับ แต่ภาครัฐสามารถที่ให้แนวทางคอยควบคุมอีกทีได้ครับ หากเราสามารถให้ความรู้เรื่องป่าสำหรับคนที่เข้ามาลงทุนได้ ผมว่าคงจะเป็นอีกแนวทางหนึ่ง บ้านเมืองค่อนข้างจะวุ่นวายอยู่แล้ว โครงการปองดองเลยกลายเป็นทำร้ายกันเอง บ้านเมืองยิ่งต้องการพลังจากประชาชน รัฐจะทำให้ประชาชนแตกแยก หันหน้ามาหาวิธีการสร้างดีกว่าครับ 

ความเห็นที่ 12

เจ้าหน้าที่อุทยานฯทับลาน ระบุว่ารีสอร์ทและบ้านพักตากอากาศเหล่านี้ถ้าไม่ใช่ของพวกนายทุนเส้นใหญ่ ไม่ใช่ข้าราชการระดับบิ๊กรวมทั้งตำรวจ-ทหารระดับนายพล อดีตรัฐมนตรี และส.ส.สร้างขึ้นมาไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะพื้นที่บริเวณนี้เป็นเขตอุทยานฯเป็นที่ดินป่าสงวน หรือถ้าอยู่ในโซนผ่อนผัน ก็เป็นพื้นที่ส.ป.ก.ผ่อนผันให้กับชาวบ้านที่ตั้งรกรากมาก่อนประกาศเป็นพื้นที่ป่าสงวนใช้สำหรับทำการเกษตรเท่านั้น

แต่คนเหล่านี้มีบารมี มีอิทธิพล ลำพังกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่แตะไปตรงไหนก็เจอตอ ไปจับที่ไหนก็มีผู้มีอิทธิพลโทรศัพท์มาขอเคลียร์หนักหน่อยถึงขั้นข่มขู่เจ้าหน้าที่ป่าไม้และเกณฑ์ชาวบ้านมาประท้วงกดดันเจ้าหน้าที่ เพราะปัญหาในวังน้ำเขียว และนาดีเรื้อรังมานานกว่า 10 ปี ถ้าจะปราบให้อยู่หมัดต้องส่งกำลังจากส่วนกลางลงมาช่วย ทั้งเจ้าหน้าที่อุทยานฯจากส่วนกลางตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งกรมสอบ สวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)สนธิกำลังร่วมกันปราบปรามจับกุมอย่างจริงจัง


การอนุรักษ์กับการพัฒนาที่เกินไปกว่าเกษตรกรรม มันไม่มีทางไปด้วยกันได้ครับ โลกเรามีบทเรียนมามากเกินพอแล้ว(ไม่ใช่แค่ในไทย)

การป้องกันป่าด้วยชุมชนที่อยู่กับป่านั้นมีโมเดลที่ทำสำเร็จโดยมูลนิธิสืบฯให้เห็นมาแล้วครับ แต่ชุมชน กับ รีสอทของนายทุน มันคนละเรื่อง