ตามล่าหาแห้ว ณ หนองบัวฯ
เขียนโดย knotsnake Authenticated user เมื่อ 23 กรกฎาคม 2554
ช่วงนี้เป็นช่วงเดินทางไป กทม. แทบจะสัปดาห์เว้นสัปดาห์แต่ภารกิจหลักมักแน่นเอี๊ยดจนกระดุกกระดิกไปไหนยากแต่สัปดาห์ก่อนภายหลังนำเสนอผลงานวิชาการเสร็จก็รีบบึ่งกลับบ้านแล้วก็รีบออกจากบ้านเพื่อเดินทางที่เต็มไปด้วยความหวังแต่..ก่อนออกจากบ้านก็มีข่าวพยากรณ์อากาศว่าพื้นที่เป้าหมายจะมีฝนตกสองวันซึ่งเป็นช่วงที่เข้าพื้นที่พอดีทั้งสองวันก็เลยทำใจพร้อมปลอบใจตัวเองว่ามันคงจะมีเจ้าบ้านที่ดีออกมาต้อนรับบ้างสิน่า..
บรรยากาศวันเดินทางก่อนวันหยุดยาวก็นับเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ยิ่งผู้คนล้นหลามปานหนอนบุ้งดำขนหงอกที่เกาะตามต้นไม้เป็นฝูงก็ไม่ปาน ณสถานีขนส่งสายอีสาน ผู้คนเบียดเสียดแออัดคนที่อยู่ข้างหลังก็ตะโกนว่า “ขอทางหน่อยครับ/ค่ะ เพราะรถกำลังจะออก”คนที่อยู่ข้างหน้าก็ตอบกลับว่า “ก็รีบเหมือนกันเพราะเลยเวลามามากแล้วแต่เดินไปไม่ได้” ส่วนผมเองก็พยายามเบี่ยงทางให้คนที่ดูเหมือนเขารีบกว่าผม(ทั้งๆที่ผมควรจะรีบกว่าด้วยซ้ำ) ไปๆมาๆ ผมก็เป็นฝ่ายได้เดินทางก่อนแต่ต้องเดินไปขึ้นรถนอกชานชลา เพราะรถเข้ามาไม่ได้ และแล้วรถก็ล้อหมุนเมื่อเวลาสามทุ่มครึ่ง (จากกำหนดเดิมคือสามทุ่ม) พอรถออกสู่ถนนวิภาวดีฯ พบว่าถนนโล่งกว่าที่คิด จนถึงรังสิตก็เริ่มรู้สึกว่ารถหนาแน่นขึ้น แล้วผมก็ปิดโทรศัพท์เพื่อถนอมแบตฯ (เพราะลืมชาร์ต) แล้วก็ผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลียเนื่องจากใช้ร่างกายมากเกินไปต่อเนื่องมาราวเกือบสามสัปดาห์
บรรยากาศวันเดินทางก่อนวันหยุดยาวก็นับเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ยิ่งผู้คนล้นหลามปานหนอนบุ้งดำขนหงอกที่เกาะตามต้นไม้เป็นฝูงก็ไม่ปาน ณสถานีขนส่งสายอีสาน ผู้คนเบียดเสียดแออัดคนที่อยู่ข้างหลังก็ตะโกนว่า “ขอทางหน่อยครับ/ค่ะ เพราะรถกำลังจะออก”คนที่อยู่ข้างหน้าก็ตอบกลับว่า “ก็รีบเหมือนกันเพราะเลยเวลามามากแล้วแต่เดินไปไม่ได้” ส่วนผมเองก็พยายามเบี่ยงทางให้คนที่ดูเหมือนเขารีบกว่าผม(ทั้งๆที่ผมควรจะรีบกว่าด้วยซ้ำ) ไปๆมาๆ ผมก็เป็นฝ่ายได้เดินทางก่อนแต่ต้องเดินไปขึ้นรถนอกชานชลา เพราะรถเข้ามาไม่ได้ และแล้วรถก็ล้อหมุนเมื่อเวลาสามทุ่มครึ่ง (จากกำหนดเดิมคือสามทุ่ม) พอรถออกสู่ถนนวิภาวดีฯ พบว่าถนนโล่งกว่าที่คิด จนถึงรังสิตก็เริ่มรู้สึกว่ารถหนาแน่นขึ้น แล้วผมก็ปิดโทรศัพท์เพื่อถนอมแบตฯ (เพราะลืมชาร์ต) แล้วก็ผล็อยหลับไปด้วยความอ่อนเพลียเนื่องจากใช้ร่างกายมากเกินไปต่อเนื่องมาราวเกือบสามสัปดาห์
Comments
ความเห็นที่ 1
ความเห็นที่ 2
“อ. ลำพะเนียง บอกว่าถ้าฝนตกแบบนี้ มันน่าจะออกมาเยอะนะครับ”คุณตะขาบยักษ์เอ่ย ขณะเดินทางไปหมายแรก
“ผมก็หวังอย่างนั้นครับ”ผมตอบ แต่ในใจก็ย้อนนึกถึงประสบการณ์เก่าๆ และที่เคยบอกคนอื่นว่า “ฝนตกคนยังไม่อยากออกเลย แม้จะมีเสื้อผ้าช่วยลดความเย็นก็ตาม แต่สัตว์พวกนี้มันไม่มีอะไรช่วยเลย ก็ไม่รู้จะออกมาทำไม หนาวก็หนาว เหยื่อก็ไม่ออกมาให้กิน”แต่ไหนๆก็มาแล้ว ก็ต้องไปต่อไป อย่างน้อยก็ให้มันรู้แน่ว่ามันไม่ออกมาแน่ๆ ซึ่งยังไงๆก็ดีกว่านอนตีพุงที่บ้านอยู่เฉยๆ
ความเห็นที่ 2.1
ความเห็นที่ 2.1.1
ความเห็นที่ 3
ความเห็นที่ 4
ความเห็นที่ 4.1
ความเห็นที่ 5
ความเห็นที่ 5.1
ความเห็นที่ 5.2
ความเห็นที่ 5.3
ความเห็นที่ 6
ความเห็นที่ 7
งูปล้องฉนวนสร้อยเหลือง (Lycodon capucinus) เจ้าบ้านแห่งเขาหินปูน ที่จริงมันอยู่ทั่วไป แต่เมื่อใดที่ไปเยือนเขาหินปูนก็มักพบมันเสมอๆ
ความเห็นที่ 8
ความเห็นที่ 8.1
ความเห็นที่ 9
ความเห็นที่ 9.1
Globba schomburgkii ค่ะ ตัวนี้สังเกตง่ายหน่อย เพราะว่าก้านช่อดอกย่อยที่ยาวมากๆ และมี
bulbils อยู่ที่ก้านช่อข้างบนค่ะ
ความเห็นที่ 9.1.1
ความเห็นที่ 10
ความเห็นที่ 10.1
ความเห็นที่ 11
ความเห็นที่ 11.1
ความเห็นที่ 11.1.1
ความเห็นที่ 11.2
แทลงปอบ้านผู้ปีกเปื้อนส้มตัวเมีย Brachythemis contaminata
แมลงปอบ้านใหม่กึ่งปีกดำ ตัวผู้ Neurothemis tullia
แมลงปอปอเข็มบ่อฟ้าใหญ่ ตัวผู้ Pheudagrion australasiae
ความเห็นที่ 11.2.1
ความเห็นที่ 12
พอได้ปลากัดแล้วก็บึ่งไปหมายสุดท้ายของทริป แต่แล้วก็สะดุดกับร้านกาแฟ กอรปกับห่างมันมาหลายเพลาแล้ว จึงขอแวะ ซึ่งไม่ผิดหวังจริงๆ ทั้งการจัดร้าน รสชาติกาแฟ และเจ้าของ
ความเห็นที่ 12.1
ความเห็นที่ 13
ความเห็นที่ 13.1
ความเห็นที่ 14
สัตว์ที่พอเจอแถวๆนี้ส่วนหนึ่ง
ความเห็นที่ 14.1
ความเห็นที่ 14.2
อึ่งข้างดำ
อึ่งลายเลอะ ครับ
ความเห็นที่ 15
ความเห็นที่ 16
หากชาวบ้านเจอตะขาบยักษ์ก็ วานเขาจับใส่กล่องไว้ให้ซิครับ..เลี้ยงไว้ซักพัก ไปถ่ายรูปดูให้
เห็นตัวได้สัมผัส จึงค่อยเอาไปปล่อยที่เดิมเขา
ความเห็นที่ 16.1
ตะขาบยักษ์นั้นถูกน้อง Knight และ Nine จับอยู่มือแล้วครับ ส่วนเป้าหมายหลักของผมคืองูเขียวหางไหม้ และจิ้งจกนิ้วยาวครับ แต่ไม่มีแม้วี่แววเลยจริงๆ เฮ้อ..
ความเห็นที่ 16.1.1
ความเห็นที่ 17
น่าไปเยือนมากเลยขอรับ ^^
ความเห็นที่ 18
ความเห็นที่ 19
ความเห็นที่ 19.1
ความเห็นที่ 19.1.1