มะกล่ำตาหนู
เขียนโดย สมศักดิ์ Authenticated user เมื่อ 11 กันยายน 2554
***อตร.เมล็ดมะกล่ำตาหนู***
สธ.เตือนอันตราย....เมล็ดมะกล่ำตาหนู กินถึงตาย-ตาบอด.....
สธ.เตือน อันตรายจากเมล็ดมะกล่ำตาหนู หลังพบเด็ก 8 ขวบกินแล้วตาย เป็นพืชมีพิษร้ายแรง เผยแค่เพียง 1 เมล็ด ทำให้ตาย-ตาบอด นักวิจัยชี้สีสันสวยงามล่อตา ทำเด็กเข้าใจผิด.....
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2549 นพ.ปราชญ์ บุญยวงศ์วิโรจน์ รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.)ออกมาประกาศ เตือนอันตรายของเมล็ดมะกล่ำตาหนู หลังได้รับรายงานว่า มีเด็กหญิงวัย 8 ขวบ จากหมู่บ้านขุมเงิน ต.โคกสว่าง อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด กินเมล็ดมะกล่ำตาหนูเข้าไป โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เมื่อวันที่19 ธันวาคม 2548 และได้เสียชีวิต หลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลยโสธร ในอีก 2 วันต่อมา โดยก่อนเกิดเหตุ ผู้ป่วยมีอาการอาเจียนรุนแรงหลายครั้ง และร่างกายอ่อนเพลียมาก.....
"ผู้ป่วยรายนี้ เป็นอุทาหรณ์ ที่ต้องประชาสัมพันธ์ แจ้งข้อมูลให้ประชาชนได้รับทราบ เพื่อป้องกันและใช้ประโยชน์จากมะกล่ำตาหนูให้ถูกต้อง ส่วนที่เป็นพิษมากที่สุด คือ เมล็ด หากกลืนทั้งเมล็ด จะไม่เป็นพิษ เนื่องจากเปลือก จะไม่ถูกย่อยในกระเพาะอาหาร และลำไส้ แต่หากขบ หรือเคี้ยวเมล็ดให้แตก แล้วกลืนเข้าไป จะเป็นอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้ น.พ.ปราญ์ กล่าว.....
นายประพันธ์ เชิดชูงาม นักวิจัย สาขาพิษวิทยา และอาชีวเวชศาสตร์สิ่งแวดล้อม ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล กล่าวว่า ต้นมะกล่ำตาหนู พบได้ทุกพื้นที่ โดยเฉพาะภาคอิสาน พบมากตามท้องไร่ท้องนา และรั้วบ้าน มักเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ สีสันสวยงาม เป็นไม้เลื้อยตระกูลถั่ว มีใบออกเป็นคู่รูปขนนก มีใบย่อย 8-15 คู่ ขอบใบเรียบ ออกดอกเป็นช่อที่ซอกใบ กลีบดอกมีหลายสี เช่น ม่วง แดง ชมพู หรือ ขาว ผลเป็นฝัก คล้ายถั่วลันเตา ภายในฝักมี 3-5 เมล็ด กลมรี ยาวขนาด 6-8 มิลลิเมตร เปลือกแข็ง สีแดงสดเป็นมัน มีสีดำตรงขั้ว ขึ้นได้ทั่วไปในประเทศแถบเส้นศูนย์สูตร เช่น ตอนใต้ของจีน อินเดีย ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา ตอนใต้ของอาฟริกา และไทย นอกจากมะกล่ำตาหนูแล้ว ยังมีชื่อเรียกตามภาษาถิ่นแตกต่างกันไป เช่น กล่ำเครือ กล่ำตาไก่ มะกล่ำแดง มะกล่ำแด๊ก มะแด๊ก มะขามไฟ ตาดำตาแดง ไม้ไฟ เป็นต้น.....
นายประพันธ์บอกว่า ภายในเมล็ดมะกล่ำตาหนู มีส่วนประกอบของ N-methyltryptophan,abric acid,glycyrrhizin,lipolytic enzyme และ abrin ซึ่งสูตรโครงสร้างของ 'abrin' เป็นส่วนที่มีพิษสูงมาก หากเคี้ยว หรือกินเข้าไป สารพิษจะไปทำลายเม็ดเลือดแดง ระบบทางเดินอาหาร และไต เมื่อถูกความร้อน จะสลายตัวง่าย แต่คงทนอยู่ในทางเดินอาหาร เพียง 0.01 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม หรือกินเพียง 1 เมล็ด ก็ทำให้เสียชีวิตได้ หากสารพิษถูกผิวหนัง อาจทำให้เกิดผื่นคัน ถูกตาจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง ถึงขั้นตาบอดได้
สำหรับอาการของผู้ ป่วย ที่กินเมล็ดมะกล่ำตาหนูเข้าไปนั้น นายประพันธ์บอกว่า ระยะแรก จะมีอาการของระบบทางเดินอาหาร หลังจากกินเข้าไป ได้แก่ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง ในรายที่รุนแรง อาจอาเจียนเป็นเลือด อุจจาระ มีมูกเลือด และช็อก จากการเสียเลือด 2-3 วันต่อมา ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการทางระบบอื่น เช่น ซึม กล้ามเนื้ออ่อนเพลีย หัวใจสั่น มือสั่น ผิวหนังแดง ชัก ตับวาย ไตวาย เป็นต้น เคยมีรายงานผู้ได้รับพิษจากการกินเมล็ดมะกล่ำตาหนู 1 ราย เมื่อปี 2541 เป็นเด็กผู้ชายวัย 4 ขวบ ที่ จ.บุรีรัมย์ โชคดีที่แพทย์ช่วยชีวิตไว้ได้
"มะกล่ำตาหนู เป็นพืชที่เมล็ดมีสีสันสวยงามสะดุดตา เมล็ดมีพิษรุนแรง เด็กๆ เห็นสวยงาม อาจจะนำมาเล่น เอามากิน เอามาเคี้ยวเล่น ถ้ากลืนเข้าไป โดยเมล็ดไม่แตก ก็จะไม่มีอันตรายถึงชีวิต แต่ถ้าเคี้ยวจนเมล็ดแตก โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็อาจเสียชีวิตได้ จำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ประเทศไทย ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์จากเมล็ดมะกล่ำตาหนูเหมือนบางประเทศ ที่นำมาร้อยเป็นสร้อยคอ สร้อยข้อมือ ซึ่งมีรายงานผู้ได้รับพิษจากเมล็ดมะกล่ำหลายรายแล้ว"นายประพันธ์ กล่าว
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก http://www.medplant.mahidol.ac.th ระบุถึงรายงานผู้ได้รับพิษ ในผู้ป่วยหลายราย เช่น เด็กผู้หญิงอายุ 2 ขวบ ในออสตาตูลา รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา กินเมล็ดมะกล่ำตาหนู แล้วเกิดอาการอักเสบของทางเดินอาหารนาน 4 วัน ก่อนจะเสียชีวิตลงเมื่อปี 1949 ต่อมาเกิดขึ้นกับเด็กคนหนึ่งในเคลียร์วอเตอร์ รัฐฟลอริดา และเสียชีวิตลง เมื่อเดือนตุลาคม 1958 เช่นเดียวกับเด็กอายุ 2 ขวบ ในรัฐไมอามี่ ที่เสียชีวิต จากการกินเมล็ดมะกล่ำตาหนูเข้าไปเมื่อปี 1961.....
นอกจากนี้ ยังมีเด็กในสหรัฐอเมริกา สังเวยชีวิตให้เมล็ดมะกล่ำตาหนู อย่างต่อเนื่อง โดยเด็กชาย 2 คน อายุ 9 ขวบ และ 12 ปี กินเมล็ดมะกล่ำตาหนูเข้าไป 1 เมล็ด หรือ มากกว่า มีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง อาเจียน
เครดิตจาก http://www.pantown.com/board.php?id=13852&area=&name=board1&topic=106&action=view ขอบคุณครับ
Comments
ความเห็นที่ 1
ความเห็นที่ 2
ความเห็นที่ 3
ความเห็นที่ 3.1
ความเห็นที่ 4
ความรู้เพียบเลยนะคร้าบ กระทู้นี้
ความเห็นที่ 5
ความเห็นที่ 6
เด็กๆ ก็รู้ว่ากินไม่ได้ เพราะพ่อกับแม่บอก แต่ไม่นึกว่าใบมันกินได้ด้วย ^^