วัยใสท่องป่า ตอน ทากน้อยกลอยใจ(1)

 

เรื่อง อุเทน ภุมรินทร์ ภาพ: วิสูจน์ สุพงษ์

"ดูดเธอ ดูดเธอ ดูดดัง จ๊วปๆ" ผมฮัมเพลงนี้อย่างอารมณ์ดี

"ดูดคอหอย เลือดสาดกระจายยย"

ร้องแล้วไม่ร้องเปล่า พลางหันหน้าทำปากจู๋ทะเล้น ห่อปากเหมือนจะดูดอะไรสักอย่าง ไปทางเธอ ซึ่งกำลังใส่เท้าข้างหนึ่งเข้าไปในถุงกันทากที่เราเพิ่งซื้อมาเมื้อกี้นี้ จากร้านขายของที่ระลึกของอุทยานฯ

ได้ผล เธอไม่ค้อนหน้าอาย แต่กลับเม้มปากถลึงตา คว้าถุงกันทากอีกข้างหนึ่งที่เธอยังไม่ทันใส่ ฟาดป๊าปอย่างจัง เข้าที่แขนของผม

ทะลึ่ง!"  สาวแก้มบุ๋มมีลักยิ้มว่า

"ทะลึ่งที่ไหนล่ะ ร้องเพลงน่ะ สมมติอารมณ์เป็นทากไง" ผมฉีกยิ้มแก้ตัวบอกเธอไปอย่างนั้น

"แต่ถ้าน้องฟ้าใส่ชุดนี้เดินป่าน่ะ น้องฟ้าของพี่ได้โชกเลือดแน่จ้ะ" ผมพูดพลางมองหน้าใสๆ ของเธอ

"เก็บกางเกงขาสั้นอวดเรียวขา อย่างนี้ ไว้ใส่ในเมืองดีกว่าจ้ะ ขืนใส่ตัวนี้ไป มีหวังทากหนุ่มๆ ได้มีกระโดดถีบ แย่งกันปีนต้นขาน้องฟ้าแน่ๆ"

ผมพูดพลางทำสายตาอ้อนวอน "ถุงกันทากน่ะ มันกันได้แค่ช่วงที่ถุงผ้ามันคลุมถึงเท่านั้น ขืนใส่ขาสั้น มันไต่ไปพ้นถุงเมื่อไหร่ ก็ฝังเขี้ยวรอบน่องนู๋ทันทีเมื่อนั้น"

"ก็ได้ค่ะ" เธอลุกขึ้นอย่างว่าง่าย ไปเปลี่ยนกางเกงเป็นกางเกงขายาวแต่โดยดี

เฮ้ย! ผมถอนหายใจยาว นึกว่าเธอจะแต่งตัวไปล่อไอ้เข้ ที่เพิ่งเป็นข่าวดังแถวลำตะคองเสียแล้ว!
..........

วันนี้ เราสองคน หนุ่มสาวดาวมหาลัย จะมาท่องป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา แม้ยังไม่ถึงหน้าฝนและมันอยู่ในช่วงหน้าแล้งชัดๆ พายุฝนกลับกระหน่ำจนบางจังหวัดน้ำท่วม ดินถล่มกันเลยทีเดียว สภาพอากาศเริ่มวิปริต แปรปรวน เหมือนตอนน้องฟ้าอารมณ์เสียยังไงยังงั้น แต่น้องฟ้าอารมณ์เสียก็ส่งผลโดยตรงกับผมคนเดียว ส่วนเรื่องธรรมชาติ โดนกันถ้วนทั่วทุกตัวคนครับ หลายคนว่า ถึงเวลา ธรรมชาติ 'เอาคืน' บ้าง เพราะเขาถูกทำลายมาเยอะ

แต่หลังพายุฝน ความกดอากาศต่ำผ่านไป ก็ทำให้ป่าเขาใหญ่เขียวชุ่มชอุ่มใบขึ้นมา น้ำตกใหญ่ๆ อย่างเหวนรก เหวสุวัติ น้ำตกสวยใส โดนใจวัยโจ๋ เพราะมีทางปูนพร้อมราวบันไดเดินลงไปชมความงามชนิดละอองน้ำกระเซ็นเปียกหน้ากันถึงที่ เมื่อมาครั้งก่อน ผมเห็นแฟชั่นถุงกันทากที่นี่ ทางเดินปูนเปรียบได้กับแคทวอล์ค โดยมีหญิงสาวพราวเสน่ห์กลุ่มหนึ่งสองสามคน แน่นอน พวกเธอน่าจะมาจากเมืองกรุง ในชุดแฟชั่นนิยมกางเกงขาสั้นรัดรูป เสื้อเกือบโชว์สะดือ สวมถุงกันทากไปชมน้ำตกเหวนรก น่ารักดีจังวุ้ย! คุณว่าไหม?

ดินชุ่ม ป่าชื้น สัตว์ป่าที่เขาใหญ่ คุณเก้ง กวาง ช้าง ลิงมากมายอยู่แล้ว ดังนั้น อยากชมความงามธรรมชาติป่าเขาใหญ่ก็ต้องบู้กับทากกันสักหน่อย

น้องฟ้าเดินออกมาจากบ้านพักแล้ว เธอมาเปลี่ยนชุดเป็นกางเกงขายาว เสื้อแขนยาว พร้อมหมวกกันแดด รวบผมที่เคยยาวมัดไว้ดูทะมัดทะแมง สวมถุงกันทากที่ทำจากผ้าดิบสีขาวเพื่อจะได้เห็นทากง่ายๆ ก่อนมันจะฝังเขี้ยวลงเนื้อหวานๆ พร้อมรองเท้าคอนเวิร์สสีฟ้าสดตามชื่อเธอ ยังนี้ค่อยน่าพาเดินป่าชี้นกชมไม้กว่าเมื่อกี้หน่อย เมื่อกี้ มันชุดไปดูหนังที่เมเจอร์ชัดๆ

"ไปกันได้ยังค่ะ" เธอลากเสียงหวาน แต่หน้าไม่ยิ้ม ยังกับรู้ว่า ผมพลอยสรรเสริญเธออยู่

"คร้าบ"

ผมพาเธอเดินเข้าไปในเส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกผากล้วยไม้ ซึ่งเป็นทางเดินที่ไม่ได้เทปูนทำคอนกรีตไว้
คว้ามือเธอไว้ทัน ก่อนที่เธอจะเดินนำหน้าผมไป ชวนกันฉีดสเปรย์ป้องกันแมลง ป้องกันทาก อย่าง สเปรย์ยี่ห้อ off กระป๋องสเปรย์สีส้มๆ ให้ทั่วรองเท้าและถุงกันทาก จริงๆ แล้ว จะเลือกใช้ยากันแมลง สเปรย์ตัวไหนก็ได้ อย่าง กย.15 ซอฟท์เฟิล หรือน้ำยากันทากที่ทางศูนย์ฝึกอบรมเขาใหญ่ ซึ่งมีทีมศึกษาชีวิตทาก แล้วก็ผลิดน้ำยาออกมา มีขายตามร้านค้าสวัสดิการแถวที่กางเตนท์ ลองหาดูครับ แต่ผมก็ยังไม่เคยลองสักที

" ฉีดสเปรย์กันอย่างนี้แล้ว ทากมันยังจะขึ้นมาดูดเลือดเราอีกไหมค่ะ พี่" สาวมอวัยใสถามผม

"ช่วงแรกๆ เท่านั้นแหละจ้ะ ทากเป็นสิ่งมีชีวิตสดใส ซิ่งๆ ในธรรมชาติ เขาจึงกลัวสารเคมีต่างๆ ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ แต่สารเคมีพวกนี้ พอโดนน้ำเข้าหน่อยก็หายหมด อยู่ได้ไม่นาน ยิ่งเดินป่าหลังฝนตก หรือช่วงหน้าฝนที่หญ้า ใบไม้ข้างทางยังเปียก ก็ไม่นานเลย ยาที่เราทาไว้ก็ละลาย"

"อ้าว แล้วฟ้าไม่โดนทากกัดแย่เหรอ?" เธอหันใบหน้าเนียนๆ ที่ไรเหงื่อเริ่มผุดมาถามผม

"อย่าไปกลัว มากับพี่ทั้งคน นี่ใคร นักสัตว์ป่าเสียอย่าง" ผมทำท่าตีอกขึงขัง และแววตาล้อเล่นกับเธอ

"ชิ แล้วนักสัตว์ป่า พ่อป่าไม้ไทย ทากเขาไม่ดูดหรือไงย่ะ" เธอว่า พลางค้อนขวับ

ขณะที่บนพื้นดินหรือใบไม้ข้างทางเดิน ทากกระหายเลือด ชูหัวส่ายไปมา ยังกับใช้เรดาห์จับสัญญาณ และเริ่มคืบ กระดิ๊บๆ เข้ามาหาเรา

............

"แซ่ดๆ"นกปรอดโอ่งเมืองเหนือหลายตัว ส่งเสียงร้องก้องในลำคอ ก่อนบินมาเกาะอยู่ไม่ห่างจากเรานัก น้องฟ้าส่องกล้องสองตาดูมันสักพัก ก่อนหันมาถามว่า "นกอะไร แก่เหมือนพี่เลย มีเคราขาวด้วย" นั่น ถามไม่ถามเปล่า เล่นเราอีกจนได้

"ดูนกก็สอนดูไปแล้ว เอาเบิร์ดไกด์มาเปิดสิ" ผมบอกกับเธออย่างอมภูมิ ไม่อยากบอกง่ายๆ รู้ว่าบอกไปเดี๋ยวเธอก็ลืม ต้องให้เปิดดูเอง

"ก็อยู่ในกระเป๋าหลังพี่ไง ฟ้าแอบเอาไว้ตอนพี่เข้าห้องน้ำก่อนเดินเข้ามาในนี้" เธอยังมาทำยิ้มกว้างจนแก้มบุ๋ม

เอากับเธอสิครับ มีเล่นทีเผลอด้วย อยากดูนกชมไม้ แต่ไม่ยอมแบกเอง หนักเองด้วย เฮ้อ!

กว่าเธอจะเจอหน้าตานกปรอดโอ่งในคู่มือดูนกเมืองไทย ทากก็เริ่มกระดิ๊บขึ้นมาตามต้นขาที่ถุงกันทาก ผมบอกเธอให้ใจเย็นๆ ไว้ (โชคดีจัง ที่สตรีอย่างเธอไม่ได้กลัวหนอน) ให้หยิบออกหรือใช้นิ้วดีดให้มันกระเด็นออกไป

"ช่วงที่ทากกำลังงอตัว หัวและท้ายเข้าหากันเป็นรูปตัวยู ช่วงนั้นแว่นดูดท้ายของมันก็ยกลอย ส่วนแว่นดูดด้านหน้าที่เป็นปากมัน มีฟันเล็กๆ มหาศาลไว้ดูดเลือดเรา ยังไม่ได้ฝังเขี้ยว ดีดมันช่วงนี้ มันกระเด็นหงายเก๋งไปเล้ยย"

"แต่ถ้าไม่หลุด ก็เอานิ้วไปเขี่ยตรงแว่นดูดท้ายของมัน มันจะเสียระบบสุญญากาศที่ดูดกับหนังหรือเสื้อผ้า ที่นี่ก็หยิบมันออกได้แล้ว" ผมไม่ว่าเปล่า พลางโชว์พลังนิ้วดีดทากสองตัวที่กำลังกระดิ๊บขึ้นมาบนขากางเกง เธอเองก็ลองกับทากที่อยู่บนถุงกันทากเธอเหมือนกัน ดีดหล่นไปไม่ไกล ทากที่เราดีด ก็บิ๊ด จ้ำ บิ๊ด มาหาเราอีก

"ทากมันไม่เห็นมีตา แล้วมันรู้ได้ไงว่า เราอยู่ที่นี่" เธอพูดขณะตากลมโตคู่นั้น ยังก้มมองทากที่กระดิ๊บเข้ามา

ผมนำพาเธอเดินออกไปจากแถวนั้น ตามเส้นทาง สวนกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่แต่งกายในชุดเดินป่ารัดกุม ที่พยายามเดินแซงขึ้นมานำหน้า นักท่องเที่ยววัยใสหนุ่มสาวกลุ่มหนึ่งที่กำลังถ่ายรูปผ่าน Black Berry เสียงเฮลั่น ผมก็พยายามพาฟ้าเดินผ่านนักท่องเสี้ยว ประเภทมาเดี๋ยวเดียวถ่ายรูปกับป้ายกลุ่มนี้ไปโดยเร็วเหมือนกัน

"แล้วใครบอก ว่ามันไม่มีตา" เดินมาได้สักพัก ผมหันกลับไปถามเธอ ถึงสิ่งที่เธอสงสัย

"มันไม่มีตาโปนๆ กลมโตวิ้งๆ เพราะบิ๊กอายอย่างคนเราก็จริง แต่มันก็มี 'ตา' ที่ไว้รับรู้ว่า 'เหยื่อ' มาแล้วเหมือนกัน"

"ลองทายหน่อยสิ เดี๋ยวจะเฉลยให้ ว่าทากรู้ได้อย่างไร ว่าอาหารมาแล้ว แบบว่า มันตีพุงรอได้เลย?"

เธอขมวดคิ้วหนาๆ นั้นเข้าด้วยกัน หน้าตาพยายามใช้ความคิด

..............

***โปรดติดตาม วัยใสท่องป่า ตอน ทากน้อยกลอยใจ ยังไม่จบ ช่วยน้องฟ้าคิดกันหน่อยว่า ทากน้อยใช้อะไรในการ 'มอง' จึงรู้ได้ว่าเหยื่อมาแล้ว และเข้าไปดูดได้ถูกตัว

 

 

  

Comments

ความคิดเห็น

ความเห็นที่ 1

สงสัยมันรู้จากแรงสั่นสะเทือนจากการเดินของเรา โดดเกาะไว้ก่อนถ้าอุ่นๆ มันก็ดำเนินการต่อ ถ้าไม่อุ่นมันก็ปล่อย  แต่ที่แน่ๆ มันชอบตรงที่มีชีพจรเต้นตุ้บๆๆ

ความเห็นที่ 2

สนุกครับ อิจฉาหนุ่มๆสาวๆจริงๆ

ว่าแต่ทากตัวในภาพ เหมือนทากตองที่พบตามเขาสูงมากกว่าทากเขาใหญ่นะครับ ผมมีภาพทากเขาใหญ่ เปลี่ยนให้ดีไหม? 

ความเห็นที่ 3

เอ๊า....ทากไทยก็มีหลายชนิดเหมือนกันแฮะ

ความเห็นที่ 4

ใช้แรงสั่นสะเทือนเป็นหลักครับ และน่าจะมีการรับรู้ทางเคมีด้วยอีกส่วนหนึ่งนะ  

ความเห็นที่ 5

ขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ พี่นณณ์ เปลี่ยนดีครับ

ความเห็นที่ 6

เข้ากับยุคสมัยดีครับ yes

ความเห็นที่ 7

มีเรื่องเห็บไหมพี่ ฮ่าๆๆ

ความเห็นที่ 8

แค่นึกถึงก็สยองแล้วค่ะ ท่าทางส่ายหัวไปมาเหมือนจับสัญญาณผู็ที่ผ่านไปมา ก่อนจะกระดึ๊บมาเกาะแน่นไม่ยอมปล่อยปากออกจากเหยื่อ...อึ๋ย!! แค่นึกก็หยะแหยง...

เคยไปเก็บตัวอย่างสัตว์น้ำจืดแถวปัตตานี ยะลา และนราธิวาส โดยเฉพาะแถวฮาลาบาลา เยอะมาก โดนเล่นงานอยู่คนเดียวตลอด จนเห็นทีไรเป็นต้องร้องกรี๊ดซะลั่นป่าทุกที หมดภาพนิ่งๆที่สร้างมานานเลย 555

ว่าแต่อ่านไปอ่านมาก็อิจฉาสองคนนี้นะเนี่ย 555