นก กก
ฟาบ ฟาบ ฟาบ กก กก กก เช้ามืดวันที่สองของการเดินทางลาดตระเวนไปยังหน่วยพิทักษ์ป่าคลองเสลา ท้ามกลางขุนเขาน้อยใหญ่อันสลับซับซ้อนอันสงบเยือกเย็นใจกลางผืนป่ามรดกโลกห้วยขาแข้ง
เราเลือกจะนอนพักกันที่ป่าไทร ซึ่งมีต้นไทรป่าน้อยใหญ่อยู่ไม่น้อยทั้งเสียงนกนานาชนิด ลิงค้างชะนีอีกจำนวนไม่น้อยที่วนเวียนมาที่ป่าไทรแห่งนี้
และมีนกเงือกจำนวนไม่น้อยที่วนเวียนเข้ามา แต่ที่ผมสนใจมากๆ ก็คือนก กก หรือนก กาฮัง มันผิดกับนก กก ที่ผมเคยเห็นในกรงที่สวนนกแถวบ้านผมมาก เห็นเค้าบินอย่างอิสระอยู่ในป่าได้ยินเสียงร้อง ของเค้าอันสดับหูและเยือกเย็นที่ผมไม่เคยสัมพัสมาก่อน
ทำให้ผมประทับใจครั้งแรกเมื่อได้ยินเสียงนั้นอย่างยิ่ง หลังจากนั้นมานก กก ก็ทำให้ผมได้รู้ว่า ทำใมป่าผืน ใหญ่ๆ จำเป็นต้องมี นกเงือกเป็นตัวชี้วัด ความอุดมสมบูรณ์ของป่าคุณประโยชน์ของเขามีให้มนุษย์อย่างพวกเราอีกมากมาย เช่น กำจัดแมลงศัตรูพืช กำจัดวัชพืช ผสมเกสรดอกไม้ต่างๆ ช่วยแพร่กระจายเมล็ดพันธุ์ไม้
วิถีชีวิตของเขายังให้แง่คิดแก่สังคมมนุษย์ ในเรื่องของความซื่อสัตย์และภักดีต่อคู่ชีวิต ตลอดจนความรับผิดชอบในการเลี้ยงดูครอบครัว และหน้าที่ต่อสังคม ที่เขาอาศัยอยู่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงวิถีชีวิตที่วิวัฒนาการเพื่อการอยู่รอด หากมนุษย์มีความรับผิดชอบต่อครอบครัวของตนเฉกเช่นนกเงือกแล้ว ปัญหาสังคมหลายๆ ประการที่พบเห็นอยู่ในปัจจุบันก็คงลดน้อยลง
มีคำถามว่า “การอนุรักษ์ธรรมชาติในประเทศไทยนั้นจำเป็นต่อชีวิตของมนุษย์มากน้อยเพียงใดหรือ” แล้วท่านทั้งหลายจะตอบคำถามนี้ เช่นไร
ภาพ โดย สุธนัย ครุพานิช
เขียน โดย วิรัช พรมยา
Comments
ความคิดเห็น
ความเห็นที่ 1
เพราะว่ามัวหลงสังคมที่ยิ่งเจริญขึ้น และมองไม่เห็นว่าผืนป่าและสัตว์ป่ายังมีความสำคัญ
ทุกวันนี้สังคมเมืองเจริญขึ้นแต่น้ำใจคนก็ยิ่งต่ำลง แล้วจะให้นานาประเทศเขาเรียกเราว่าสยามเมืองยิ้มได้อีกหรือ