จดหมายเปิดผนึก ถึง สวนสัตว์ดุสิต

13 มิถุนายน 2555
 
เรียน ผู้อำนวยการสวนสัตว์ดุสิต
เรื่อง กิจกรรมขายสัตว์ปล่อยในบริเวณสวนสัตว์ดุสิต
 
 
เนื่องจากข้าพเจ้า ได้เข้าไปเที่ยวที่สวนสัตว์ดุสิตเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2555 พบว่ามีการขายสัตว์น้ำเพื่อปล่อยในบริเวณสวนสัตว์ดุสิต ซึ่งข้าพเจ้ามีความกังวลกับกิจกรรมดังกล่าว ดังนี้
 
1. ภาพปลาตะเพียนขาวที่นำไปใช้ประกอบการโฆษณาเพื่อการค้า เป็นภาพที่ข้าพเจ้าเป็นผู้ถ่าย ซึ่งการนำภาพดังกล่าวไปใช้เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ภาพถ่ายของข้าพเจ้าตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ. 2537 ซึ่งห้ามมิให้นำภาพถ่ายไปทำซ้ำ หรือเผยแพร่ โดยเฉพาะเพื่อแสวงหากำไร โดยมิได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์

2. สัตว์น้ำที่ปล่อยหลายชนิด คือ ปลานิล (ทวีปแอฟริกา) ปลาทับทิม (ทวีปแอฟริกา) ปลาจาระเม็ด (ทวีปอเมริกาใต้) ปลาไน (เอเชียตะวันออก) และตะพาบไต้หวัน (เอเชียตะวันออก) เป็นสัตว์ต่างถิ่น มิได้มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทย โดยในปัจจุบันประเทศไทยประสบปัญหากับชนิดพันธุ์ต่างถิ่นหลายชนิด เช่นการระบาดของหอยเชอรี่ และ ผักตบชวา ซึ่งส่งผลเสียต่อระบบนิเวศและเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก การที่ทางสวนสัตว์ดุสิต อนุญาตให้ค้าขายสัตว์ดังกล่าวเพื่อปล่อยลงในแหล่งน้ำ ถึงแม้ว่าจะเป็นแหล่งน้ำปิด จะเป็นการสร้างความเข้าใจที่ผิดให้กับประชาชนและเยาวชนที่ มาเที่ยวในสวนสัตว์ว่าสัตว์น้ำดังกล่าวสามารถปล่อยลงสู่แหล่งน้ำในประเทศไทยได้

3. การโฆษณาว่าปลาที่ปล่อยเป็นปลากินพืช ไม่ทำลายระบบนิเวศ นั้นไม่เป็นความจริงเสียทีเดียว กล่าวคือ ปลาที่ปล่อยมิได้เป็นปลากินพืชทั้งหมด เช่น ปลาสลิด ปลาหมอไทย และ ตะพาบ เป็นสัตวที่กินสัตว์น้ำชนิดอื่นๆเป็นอาหารหลัก ส่วนปลาตะเพียนขาว จาระเม็ด ปลานิล ปลาทับทิม และ ปลาแรด จัดเป็นปลาในกลุ่มที่สามารถกินได้ทั้งพืชและสัตว์ มิได้กินแต่พืชอย่างเดียว นอกจากนั้นการที่บอกว่าการปล่อยสัตว์ที่กินพืชเป็นอาหารไม่เป็นการทำลายระบบนิเวศก็ไม่เป็นความจริง ยกตัวอย่างเช่น หอยเชอรี่ และ ปลาซัคเกอร์ ซึ่งเป็นสัตว์ที่กินพืชเป็นหลักก็ก่อให้เกิดปัญหาต่อระบบนิเวศได้ และยังพบว่าสัตว์กินพืช หลายชนิดหากพืชขาดแคลนก็สามารถปรับตัวมากินสิ่งมีชีวิตอื่นๆได้ หรือในกรณีของปลาเฉา ซึ่งเป็นปลาที่กินแต่พืชเป็นอาหารหลักก็พบว่าเป็นสัตว์ต่าง ถิ่นที่ทำให้ระบบนิเวศเสียหายในหลายประเทศ เนื่องจากกินพืชในแหล่งน้ำจนหมด ทำให้แหล่งน้ำขาดพืชมาดูซับของเสียและทำให้น้ำในแหล่งน้ำเน่าเสียได้เช่นกัน หรือในกรณีของสัตว์บก เช่น แพะซึ่งเป็นสัตว์กินพืชที่ถูกปล่อยในหมู่เกาะฮาวาย ก็ส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อระบบนิเวศเช่นกัน 

4. การอ้างสรรพคุณต่างๆในการปล่อยสัตว์น้ำแต่ละชนิด มิได้เป็นความเชื่อดั้งเดิมแต่โบราณของไทย หรือเป็นไปตามหลักการทางวิทยาศาสตร์แต่อย่างใด แต่เป็นการแอบอ้างอุปโลกขึ้นโดยผู้ค้าสัตว์ปล่อย ซึ่งเป็นการสร้างความงมงายและไม่ก่อให้เกิดความรู้ที่ถูกต้องต่อผู้ที่เข้ามาเที่ยวชมสวนสัตว์ซึ่งควรจะเป็นแหล่งให้ความรู้เกี่ยวกับสัตว์และสิ่งแวดล้อมที่ถูกต้องแก่ประชาชน

5. สัตว์ที่ปล่อยบางชนิด เช่น ปลาสลิด ปลาหมอ และ ปลากระดี่ ตามธรรมชาติแล้วเป็นปลาที่ อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำที่ค่อนข้างตื้นและมีพืชน้ำหรือพืชชายน้ำมาก อาจจะไม่สามารถปรับ ตัวอาศัยอยู่ในบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่มีความลึกมากได้ดีนัก ซึ่งการปล่อยลงไปจะเป็นการทรมานสัตว์ 
 
ด้วยเหตุผลที่กล่าวไปแล้ว ข้าพเจ้าจึงใคร่ขอเรียนแนะนำให้ทางสวนสัตว์ดุสิต พิจารณายกเลิกหรือปรับปรุงกิจกรรมดังกล่าวให้ถูกต้องตามกฏหมาย ศีลธรรมอันดี และหลักวิชาการด้วย
 
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
 
 
ขอแสดงความนับถือ
 
ดร. นณณ์ ผาณิตวงศ์
ประชาชน 
 
 
ปล. ประชาชนท่านใดที่เห็นด้วยกับผม ขอความกรุณาลงชื่อไว้ในด้านล่างด้วยครับ และขอความกรุณาออกความคิดเห็นด้วยความสุภาพและเป็นประโยชน์ครับ

Comments

ความคิดเห็น

ความเห็นที่ 1

ผมเป็นประชาชนหนึ่งคนที่เห็นด้วยกับ ดร. นณณ์ ครับ

ถ้าสวนสัตว์ดุสิตเป็นองค์กรที่ "ดี" ควร "แก้ไข" นะครับ

ความเห็นที่ 1.1

yes

ความเห็นที่ 2

การให้ข้อมูลผิดๆเป็นความเลวร้ายต่อสังคมอย่างมาก เป็นการทำบาปต่อผู้ไม่รู้ที่หลงเชื่อและกระทำตามข้อมูลผิดๆเหล่านั้น กรุณาเอาออกจากสวนสัตว์โดยด่วน เดี๋ยวนี้ไม่รู้มีอะไรต่ออะไรเต็มสวนฯไปหมดแทบไม่มีทางเดิน

ความเห็นที่ 3

นุชนาฎ สีตวรรณมาศ  ร่วมลงชื่อด้วยค่ะ

ความเห็นที่ 4

ไม่เห็นด้วยอีกเสียงครับ

ความเห็นที่ 5

ร่วมลงชื่อ 
กนกวรรณ แก้วอุไทย 

ความเห็นที่ 6


การให้ข้อมูลผิดๆแก่ประชาชนเป็นพฤติกรรมที่ไม่สมควรอย่างยิ่งค่ะ 
ถ้ายังรักพี่น้องคนไทยไม่อยากคนไทยล้าหลังเชื่อแบบผิดๆโปรดพิจารณาค่ะ

ความเห็นที่ 7

ร่วมลงชื่อค่ะ

ความเห็นที่ 8

ออกเสียง ไม่เห็นด้วยค่ะ

ความเห็นที่ 9

ไม่เห็นด้วยค่ะ  โชคดีที่มีผู้รู้ช่วยดูแลขอบคุณดร.นณณ์ค่ะ

ความเห็นที่ 10

ไม่เห้นด้วยกับกิจกรรมที่ทางสวนสัตว์ได้กระทำขึ้นครับ  เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำโดยที่ผิดศิลธรรมและอาจส่งผลกระทบกับระบบนิเวศ                                                                        

ความเห็นที่ 11

ลงชื่อคัดค้านด้วยคนครับ ธนา ศิริสัมพันธ์

ความเห็นที่ 12

ถือเป็นอีกหนึ่งความพยายามที่ดี ที่จะหยุดยั้ง (หรืออย่างน้อย "บรรเทา") วิกฤติการปล่อยเอเลี่ยนลงแหล่งน้ำธรรมชาติ

และคงจะดีมิใช่น้อยหากจะสามารถขยายผลออกไปตามท่าน้ำวัดต่างๆ ที่มีอุตสาหกรรมจำหน่ายสัตว์ปล่อยทำบุญอย่างเป็นล่ำเป็นสัน เรื่องจะค้านหัวชนฝาไม่ให้ปล่อยไม่ได้อยู่ในความคิดของผม แค่กรุณาเลือกหน่อยว่าคุณควรปล่อยอะไร ไม่ควรปล่อยอะไร ขอแค่นี้ล่ะครับ

ร่วมลงชื่อด้วยคนครับ

ดวงเดช ใจตุ้ย

ความเห็นที่ 13

เห็นด้วยคะ 
สิ่งหนึ่งที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงทางความคิดของคนเราเกี่ยวกับเรื่องของการทำบุญ
ไม่ใช่เพื่อหวังผลที่จะเกิดกับตนทั้งชาตินี้และชาติหน้า แต่เพื่อเสียสละกับชีวิตอื่นๆที่อยู่ร่วมกับเรา

ความเห็นที่ 14

ขอร่วมลงชื่อไม่เห็นด้วยกับทางสวนสัตว์ค่ะ

ความเห็นที่ 15

เพ็ญนภา กรัดทาน ขอลงชื่อไม่เห็นด้วยค่ะ

โดยส่วนตัวไม่ชอบสวนสัตว์อยู่แล้ว ไม่ว่าที่ไหนๆ ข้ออ้างของเหตุผลที่ว่า เพื่อให้มนุษย์ได้ศึกษาหาความรู้ ก็เห็นแต่มองดูสัตว์ที่ถูกขังอยู่ในกรง ได้มองเห็นความทุกข์ทรมานของมันบ้างไหม

ประเทศไทย ปล่อยให้ใครเอาอะไรเข้ามาในประเทศก็ได้ พืชและสัตว์พันธุ์พื้นเมืองของเราล่มสลายไปเยอะแล้ว กี่ครั้งแล้วที่มีปัญหากับสัตว์แปลกประหลาด ตั้งแต่ ปลาปิรันย่า, ตัวนาค ฯลฯ แต่คนไทยลืมง่าย ปัญหาใหม่จึงเกิดขึ้นไม่จบไม่สิ้น

ความเห็นที่ 16

ลงชื่อไม่เห็นด้วยค่ะ

ความเห็นที่ 17

ร่วมลงชื่อครับ

ความเห็นที่ 18

ดิฉันขอสนับสนุนให้ สวนสัตว์ยุติเรื่องที่ไม่ใช่แก่นและหน้าที่ขององค์การค่ะ

มีภารกิจหลักที่องค์การสวนสัตว์ต้องทำมากมาย...เรื่องดีกว่านี้มีให้ทำอีกแยะค่ะ


ความเห็นที่ 19

ข้าพเจ้าเห็นด้วยกับเนื้อความในจดหมายฉบับนี้

ความเห็นที่ 20

ไม่เห็นด้วยนะครับที่ทำแบบนี้  เด็กๆเค้าจะจำกันไปแบบผิดๆนะครับ

ร่วมลงนาม
นายทศพร  วรคุตตานนท์

ความเห็นที่ 21

ร่วมลงชื่อไม่เห็นด้วยกับการปล่อยปลาค่ะ

ความเห็นที่ 22

เพราะงี้นี่เองผมถึงเจอปลาทับทิมในอ่างเก็บน้ำจำนวนมาก

ความเห็นที่ 23

ร่วมลงชื่อค่ะ

ความเห็นที่ 24

ร่วมลงชื่อค่ะ

ความเห็นที่ 25

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ

สนธยา มานะวัฒนา

ความเห็นที่ 26

ร่วมลงชื่อครับ 

ความเห็นที่ 27

ร่วมลงชื่อค่ะ

ความเห็นที่ 28

ร่วมลงชื่อค่ะ

ความเห็นที่ 29

เห็นด้วยครับเรื่องการปล่อยชนิดพันธ์สัตว์น้ำต่างถิ่นลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง
รวมถึงการนำชนิดพันธุ์สัตว์น้ำท้องถิ่นที่มีในแหล่งนำใดแหล่งน้ำหนึ่ง ไปปล่อยยังอีกแหล่งน้ำหนึ่ง ที่ไม่เคยมีชนิดพันธุ์นั้นๆ อยู่ ก็เป็นการไม่เหมาะสมเช่นกันครับ
ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองควรจริงจังกับเรื่องนี้บ้างครับ

วุฒิกร งอกเข้านก
ประชาชน

ความเห็นที่ 29.1

ขอเพิ่มเติมอีกนิดครับ
ชนิดพันธุ์สัตว์น้ำบางชนิด ผมคิดว่าถ้าหากเลี้ยงแล้ว วันใดวันหนึ่งเลี้ยงไม่ไหว
ควรมอบให้ผู้อื่นเลี้ยงแทน ไม่ควรนำไปปล่อย มิใช่ว่าสงสารแล้วนำไปปล่อยลงแหล่งน้ำธรรมชาติ ถ้าจะปล่อย ผมว่าสู้ฆ่าทิ้งซะจะยังดีกว่าปล่อยให้มันไปทำร้ายชนิดพันธ์ท้องถิ่น

ความเห็นที่ 30

ไม่เห็นด้วยกับการขายสัตว์น้ำเพื่ออ้างการทำบุญ
และขอให้สวนสัตว์หยุดการดำเนินกิจกรรมที่มุ่งหารายได้จนละเลยสวัสดิภาพสัตว์
เช่น การให้เอกชนเช่าพื้นที่จัดแสดงสัตว์ที่ขาดการคำนึงถึงสวัสดิภาพอย่างฉลามในที่แคบๆ

ความเห็นที่ 31

ไม่เห็นด้วยกับการขายสัตว์น้ำเพื่ออ้างการทำบุญ
และขอให้สวนสัตว์หยุดการดำเนินกิจกรรมที่มุ่งหารายได้จนละเลยสวัสดิภาพสัตว์
เช่น การให้เอกชนเช่าพื้นที่จัดแสดงสัตว์ที่ขาดการคำนึงถึงสวัสดิภาพอย่างฉลามในที่แคบๆ

ความเห็นที่ 32

ไม่เห็นด้วยกับการขายสัตว์น้ำเพื่ออ้างการทำบุญ
และขอให้สวนสัตว์หยุดการดำเนินกิจกรรมที่มุ่งหารายได้จนละเลยสวัสดิภาพสัตว์
เช่น การให้เอกชนเช่าพื้นที่จัดแสดงสัตว์ที่ขาดการคำนึงถึงสวัสดิภาพอย่างฉลามในที่แคบๆ

ความเห็นที่ 33

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ องค์การสวนสัตว์น่าจะให้ความรู้ที่ถูกต้องเรื่องสัตว์กับเยาวชน โดยไม่น่าจะมีความเชื่อที่อุปโลกน์ขึ้นมาแบบนี้ ผิดพลาดแล้วยอมรับ ปรับตัวใหม่ได้ครับ ยังทัน
 

ความเห็นที่ 34

เห็นด้วยกับยกเลิกการปล่อยปลาในลักษณะนี้

ความเห็นที่ 35

ไม่เห็นด้วยกับกิจกรรมลักษณะนี้ ไม่อยากให้มีการขายสัตว์ปล่อยเพิ่มอีกครับ

ความเห็นที่ 36

ร่วมลงชื่อด้วยครับ ดีใจที่มีคนใส่ใจกับเรื่องหล่านี้ครับ สวนสัตว์ควรเป็นแหล่งที่ให้ความรู้ที่ถูกต้องกับประชาชนนะครับ ไม่น่าทำแบบนี้

ความเห็นที่ 37

ร่วมลงชื่อไม่เห็นด้วย

ความเห็นที่ 38

เห็นด้วยกับ คุณ นณณ์ ผาณิตวงศ์ อย่างยิ่งครับ การที่เราปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำต่างถิ่นลงไปเป็นการทำลายระบบนิเวศ

ความเห็นที่ 39

จริงด้วย เราไปมาเห็นหมดศรัทธา ขอร่วมลงชื่อค่ะ

ความเห็นที่ 40

ทำไปได้ แย่จัง

ความเห็นที่ 41

เรียน ดร.นณณ์
ทางสวนสัตว์ดุสิต ขอชี้แจงรายละเอียดต่างๆ ตามเอกสารแนบด้านล่าง

ความเห็นที่ 42

เขาฟังเหตุผลต่างๆที่ท่านได้เสนอไปแล้ว ขอบคุณครับ

ความเห็นที่ 43

ไม่เห็นด้วยกับการทำบุญโดยการนำสัตว์มาปล่อยนะคะ ไม่ว่าจะแบบเวียนเทียน หรือปล่อยสู่ธรรมชาติแบบขาดความรู้และความเข้าใจในธรรมชาติของสัตว์นั้น ๆ

คนเราคิดเอาแต่ข้างหน้าตัวเองว่าทำบุญตามความเชื่อแบบนี้ แล้วจะทำให้ชีวิตดีขึ้น โดยขาดความเข้าใจที่แท้จริงของธรรมชาติของสัตว์ ว่ามันจะอยู่ได้หรือไม่ได้ ปล่อยไปแล้วถ้าสัตว์นั้น ๆ อยู่ไม่ได้ในธรรมชาติที่โดนปล่อยไป หรือโดนจับขึ้นมาเวียนเทียน มันก็คือบาป

ตั้งแต่ตอนเรียนหนังสือตอนเด็ก ๆ ในหนังสือเรียนก็สอนว่า
"ให้งดปล่อยนก ปล่อยปลา ที่แม่ค้าเอามาวางขายหน้าวัด เพราะเขาจะไปจับมาขายอีก สุดท้ายสัตว์เหล่านั้นต้องตาย"  แต่ปัจจุบัน กระแสบุญ กระแสธรรมะกำลังมาแรง จนทำให้กระแสทำบุญปล่อยสัตว์กลับมาอีก เป็นความเชื่อที่ผิดและล้าสมัยแล้วค่ะ โดยส่วนตัวรับไม่ได้อย่างแรง สงสารสัตว์ และอยากให้มีการรณรงค์ให้ความรู้กับประชาชนถึงเรื่องดังกล่าว

ถ้าใครคิดจะทำบุญ ของร้องเถอะ อย่าทำแบบนี้เลย สู้อยู่เฉย ๆ แล้วตั้งสติแผ่เมตตาจะดีกว่านะคะ

จากใจ .... คนเลื้ยงสัตว์ และรักสัตว์(มาก) รักสิ่งแวดล้อม

ไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว.... และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี เพราะคุณคือสวนสัตว์

ร่วมลงชื่อเห็นด้วยกับ ดร.นณณ์

จันทรา  อรียวิวัฒน์

ความเห็นที่ 44

ไม่เห็นด้วยกับการทำบุญโดยการนำสัตว์มาปล่อยนะคะ ไม่ว่าจะแบบเวียนเทียน หรือปล่อยสู่ธรรมชาติแบบขาดความรู้และความเข้าใจในธรรมชาติของสัตว์นั้น ๆ

คนเราคิดเอาแต่ข้างหน้าตัวเองว่าทำบุญตามความเชื่อแบบนี้ แล้วจะทำให้ชีวิตดีขึ้น โดยขาดความเข้าใจที่แท้จริงของธรรมชาติของสัตว์ ว่ามันจะอยู่ได้หรือไม่ได้ ปล่อยไปแล้วถ้าสัตว์นั้น ๆ อยู่ไม่ได้ในธรรมชาติที่โดนปล่อยไป หรือโดนจับขึ้นมาเวียนเทียน มันก็คือบาป

ตั้งแต่ตอนเรียนหนังสือตอนเด็ก ๆ ในหนังสือเรียนก็สอนว่า
"ให้งดปล่อยนก ปล่อยปลา ที่แม่ค้าเอามาวางขายหน้าวัด เพราะเขาจะไปจับมาขายอีก สุดท้ายสัตว์เหล่านั้นต้องตาย"  แต่ปัจจุบัน กระแสบุญ กระแสธรรมะกำลังมาแรง จนทำให้กระแสทำบุญปล่อยสัตว์กลับมาอีก เป็นความเชื่อที่ผิดและล้าสมัยแล้วค่ะ โดยส่วนตัวรับไม่ได้อย่างแรง สงสารสัตว์ และอยากให้มีการรณรงค์ให้ความรู้กับประชาชนถึงเรื่องดังกล่าว

ถ้าใครคิดจะทำบุญ ของร้องเถอะ อย่าทำแบบนี้เลย สู้อยู่เฉย ๆ แล้วตั้งสติแผ่เมตตาจะดีกว่านะคะ

จากใจ .... คนเลื้ยงสัตว์ และรักสัตว์(มาก) รักสิ่งแวดล้อม

ไม่เห็นด้วยกับการกระทำดังกล่าว.... และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี เพราะคุณคือสวนสัตว์

ร่วมลงชื่อเห็นด้วยกับ ดร.นณณ์

จันทรา  อรียวิวัฒน์

ความเห็นที่ 45

ถ้ารายได้จากการขาย นำไปใช้ซื้ออาหารสัตว์ รึยาไว้รักษาโรคต่าง ๆ ผมเห็นด้วย แต่การเอาชีวิตสัตว์มาค้ากำไร หาผลประโยชน์ให้กับตนเองทั้งผิดทั้งบาปครับ

ความเห็นที่ 46

ลงชื่อไม่เห็นด้วยเช่นกันครับ 
คัมภีร์ สีดาวงษ์

ความเห็นที่ 47

ปัจจุบันหลายหน่วยงาน นำการโฆษณาชวนเชื่อสรรพคุณต่างๆมาเป็นองค์ประกอบ
ในการจัดกิจกรรมค่อนข้างมาก  บ่อยครั้งพบเห็นว่าขัดกับหลักความเป็นจริง
ทั้งในแง่จรรยาบรรณและจริยธรรม รวมถึงผลกระทบของภาพลักษณ์ที่ไม่ดี
อันเกิดจากผลกระทบของกิจกรรมดังที่จัดขึ้น ซึ่งขัดกับปณิธานขององค์การสวนสัตว์ครับ

ร่วมลงชื่อครับ
นายสิรภพ   บุญเกิด

ความเห็นที่ 48

ขอร่วมลงชื่อด้วยครับ